สีที่ควรใช้ในร้านอาหาร

สีที่ควรใช้ในร้านอาหาร หนุนดวงการค้า กระตุ้นความรู้สึกอยากอาหาร

ความท้าทายครั้งใหม่ของธุรกิจร้านอาหารที่ต้องเผชิญในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 นี้เรียกว่าได้โดนผลกระทบอย่างหนัก ทำให้หลายร้านต้องปรับตัวเพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าและฝ่าวิกฤติธุรกิจครั้งนี้ไปให้ได้ ส่วนหนึ่งของการพยุงธุรกิจให้อยู่รอดในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ได้นั่นก็คือ การหาหมัดเด็ดมัดใจลูกค้า ที่ต้องงัดจุดแข็งในเรื่องของรสชาติอาหาร เมนูอาหารหน้าตาน่ากิน มุมถ่ายรูปสวย ๆ ไปจนถึงการตกแต่งร้านที่ถือว่าเป็นจุดขายเชื้อเชิญให้คนเข้าร้านตลอดเวลาได้ในยุคนี้ ซึ่งการเลือก สีที่ควรใช้ในร้านอาหาร จึงเป็นสิ่งสำคัญ และมีผลต่อร้านอาหารมากกว่าที่คุณคิด

สีที่ควรใช้ในร้านอาหาร มีผลต่อความรู้สึกอยากอาหารอย่างไร

อาหาร

ทุกวันนี้ร้านอาหารจะมีดีแค่รสชาติและคุณภาพคงไม่พอ ต้องควบคู่ไปกับบรรยากาศและการตกแต่งร้านสวย ๆ ที่ช่วยดึงดูดให้ลูกค้าอยากมาได้เหมือนกัน แถมการแต่งร้านอาหารออกมาสวยโดนใจ ยิ่งช่วยทำให้มีภาพร้านสวย ๆ บนสื่อออนไลน์ 

ไม่ว่าใครเห็นก็คงอยากมาตามรอยรีวิว นอกเหนือจากเรื่องความสวยงามแล้ว การตกแต่งร้านอาหารให้สวยงาม และพิถีพิถันในการเลือกโทนสียังช่วยในเรื่องการสร้างบรรยากาศ หรือแม้แต่มีผลในด้านจิตวิทยา 

เคยสังเกตไหมว่า เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกว่าอาหารที่อยู่ตรงหน้าช่างน่าทาน กระตุ้นให้น้ำลายสอ มองแล้วรู้สึกน่าทาน ทั้งที่ไม่ได้หิวเลยสักนิด นั่นหมายความว่าสมองของคุณกำลังถูกครอบงำและดึงดูดด้วยสีสันที่เย้ายวนชวนให้ทานชนิดที่ว่าต่อให้อ้วนก็ยอม 

นั่นเป็นเพราะสีไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไร้ท่อที่อยู่เหนือสมอง ชื่อว่า “ต่อมไพเนียล” ที่เกี่ยวกับการรับรู้ การมองเห็น ส่งผลต่อฮอร์โมนด้านจิตใจ อารมณ์ และความรู้สึกในเชิงจิตวิทยา หรือแม้แต่ความอยากอาหารในชีวิตประจำวัน 

สีที่ควรใช้ในร้านอาหาร หนุนดวงการค้า

ร้านอาหาร

เพราะโทนสีที่เหมาะสมสามารถกระตุ้นความรู้สึกของลูกค้าให้อยากทานอาหารที่ร้านคุณได้ แต่ในขณะเดียวกันหากคุณเลือกใช้สีที่ผิดก็ทำให้ลูกค้าไม่อยากอาหารได้เช่นกัน ฉะนั้นการเลือก สีที่ควรใช้ในร้านอาหาร จึงเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้ Ruay 365 จึงมีคำแนะนำมาฝากเจ้าของร้านอาหาร คนที่วางแผนจะเปิดร้านอาหารหรือตั้งใจจะปรับปรุงร้าน ได้เลือกใช้สีกันได้อย่างเหมาะสม ดังนี้

สีที่ควรใช้ในร้านอาหาร

3 สีที่ส่งอิทธิพลต่อการกระตุ้นให้คนอยากอาหารมากที่สุด ได้แก่

  • สีแดง สะท้อนให้เห็นถึงความ หรูหรา เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารมื้อค่ำ
  • สีเหลือง สีส้ม ให้ความรู้สึกถึงความเร่งรีบ เหมาะกับร้านอาหารประเภท Fast food ที่เน้นความเร็วในการบริการ เข้าถึงง่าย เป็นกันเอง และราคาไม่แพง
  • สีเขียว ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ เหมาะกับร้านอาหารสุขภาพ โดยอาจจะเพิ่มสีน้ำตาล หรือส้ม เพื่อให้ดูสดใสขึ้น

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับเฉดสีด้วยเช่นกัน เพราะไม่ใช่ทุกเฉดมารวมกันแล้วจะสื่อความรู้สึกเดียวกันทั้งหมด ซึ่ง Ruay ได้รวบรวม โทนสีที่ใช่ มาไว้ให้เลือกแต่งร้านตามหลักจิตวิทยา ให้ทุกคนนำไปปรับใช้ตามความต้องการได้อีกด้วย ดังนี้

หลอกตาให้ร้านกว้าง “ด้วยสีเบจ”

สีขาว สีเบจ หรือสีโทนสว่าง เป็นสีที่ทำให้คนรู้สึกโปร่งโล่งสบายตา ทำให้รู้สึกมีอิสระไม่อึดอัด ดังนั้นร้านไหนที่พื้นที่แคบใช้สีขาวทาผนังไว้ก่อนได้ จะทำให้ร้านดูกว้าง ดูมีพื้นที่มากยิ่งขึ้น

ข้อควรระวัง : การใช้สีขาว ทำให้ร้านดูสว่างดูกว้างขึ้นก็จริง แต่ระวังจะทำให้ร้านดูจืดชืดและไร้สีสันได้ บางครั้งก็อาจทำให้ดูหน้าเบื่อไปเลยทีเดียว ดังนั้นควรหาสีอื่น ๆ มาตัดกับสีขาวเพื่อเพิ่มลูกเล่นให้ดูน่าสนใจด้วย แต่ห้ามเอาสีที่ตัดกันเกินไปอย่างเขียวกับแดงมาตัดกัน เดี๋ยวจะดูโดดจนน่าตกใจ ควรหาเฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือต้นไม้มาแต่งร้านตัดกับสีขาวจะทำให้ดูร่มรื่นสบายตามากขึ้น

ทำให้ลูกค้าผ่อนคลายด้วย “สีเอิร์ธโทน”

การใช้ สีน้ำตาลและสีเขียว หรือ สีเอิร์ธโทน เป็นสีโทนธรรมชาติ จะช่วยสร้างบรรยากาศให้ร้านมีความผ่อนคลาย ดูเป็นมุมที่น่านั่งนาน ๆ และอยากใช้เวลาเพื่อดื่มด่ำได้ นอกจากนั้นสีเขียวยังบ่งบอกถึงความสุขภาพดี เหมาะกับร้านที่เน้นอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย สีแดงกับเขียวมักถูกใช้ตัดกันสำหรับร้านกาแฟ สร้างบรรยากาศให้ดูคลายเครียดและอยากกินกาแฟได้

ข้อควรระวัง : สีเขียว ไม่เหมาะกับแต่งร้านที่เป็นผับหรือบาร์ ที่มีไฟไม่สว่างมากเพราะจะทำให้ดูอึมครึมไม่สนุกสนาน ส่วนสีน้ำตาลไม่ควรใช้มาก เพราะจะทำให้ร้านดูเก่าดูแก่ ดูเป็นร้านโบราณ แต่ถ้าอยากคลุมธีมนี้ก็ใช้ได้เลย

ทำให้ลูกค้าหิวด้วย “สีแดง”

สีแดงและเหลือง เป็นสีที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้น มีชีวิตชีวาทำให้คนอยากอาหารได้ ดังนั้นจึงเห็นได้ว่ามีร้านอาหารดัง ๆ ใช้สองสีตัดกันบ่อยมาก นอกจากนั้นการใช้สองสีนี้ตัดกันยังทำให้สะดุดตาและทำให้คนจำแบรนด์หรืออาหารของเราได้ง่ายอีกด้วย ลองเอาไปใช้ดูได้นะ

สีที่ (ไม่) ควรใช้ในร้านอาหาร

ถึงแม้ Ruay จะแนะนำให้เลือกใช้ สีที่ควรใช้ในร้านอาหาร เป็นสีโทนสว่างที่จะสามารถช่วยเพิ่มพื้นที่ร้าน และให้ความรู้สึกผ่อนคลายได้ แต่ 2 สีสว่างที่ไม่ควรใช้กับร้านอาหาร ได้แก่ สีฟ้าและสีม่วง เพราะตามหลักจิตวิทยาแล้ว สองสีนี้เป็นสีที่ลดความอยากอาหาร จึงไม่ค่อยเห็นร้านอาหารจัดอาหารบนจานสีฟ้าหรือสีม่วงเท่าไหร่นัก 

แต่หากร้านของคุณเป็นร้านกาแฟที่ต้องการให้ลูกค้าเข้ามาใช้เวลาพักผ่อนหย่อนใจ การใช้สีฟ้าเข้ามาช่วยตกแต่งร้านอาจเป็นข้อดีเพราะจะทำให้ลูกค้าผ่อนคลายไปกับบรรยากาศรอบตัวได้มากกว่าเดิม แต่หากคุณกำลังจะเปิดร้านอาหารสำหรับสังสรรค์และให้ความบันเทิง การใช้สีฟ้านั้นอาจจะไม่เหมาะกับร้านประเภทนี้

สีรองที่ควรใช้ในการตกแต่งร้านอาหาร

สำหรับโทนสีที่เหมาะกับการตกแต่งร้านอาหารรองลงมาคือ สีดำ สีขาว สีเบจ และสีน้ำตาล โดยสีดำกับสีน้ำตาลเข้มนั้น จะสื่อถึงความลึกลับซับซ้อน ส่วนสีขาว จะสื่อถึงความสะอาด และทำให้ร้านอาหารดูมีมาตรฐาน สำหรับสีเบจ สีเทา และสีน้ำตาลนั้น จะสื่อถึงความอบอุ่น ซึ่งโทนสีนี้ จึงเหมาะกับร้านอาหารที่มีคอนเซ็ปต์แบบเป็นกันเอง ให้ลูกค้ารู้สึกผ่านคลายทุกครั้งที่เข้ามา

การเปิดร้านอาหาร ให้อยู่ “รอด” และ “รวย”

ผู้หญิงจดเมนู

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา “ธุรกิจร้านอาหาร” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นคนที่กำลังหาธุรกิจลงทุน หรือผู้ที่มีงานประจำที่กำลังมองหาแหล่งสร้างรายได้เพิ่ม แต่เราทุกคนต่างรู้กันดีว่าการเปิดร้านอาหาร เป็นเรื่องง่ายมีเงินก็สามารถเปิดร้านได้แล้ว แต่จะเปิดให้อยู่รอดได้นั้นยากมาก 

ยิ่งเราตกอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ แค่วิธีการเลือก สีที่ควรใช้ในร้านอาหาร หนุนดวงการค้า รสชาติอาหาร การตกแต่งร้าน เพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ เราเลยมาแถมอีกหนึ่งเคล็ดลับที่จะทำให้ร้านอาหารอยู่รอด และ รวย  มาฝากคนที่อยากทำร้านอาหารและเปิดกิจการร้านอยู่กัน กับ 4 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้

  • ขั้นตอนที่ 1 ช่วงโปรโมชั่น เป็นช่วงแรกของการเปิดร้านใหม่ ๆ ช่วงนี้ให้เน้นทำโปรโมชั่น เน้นกลยุทธ์เพื่อดึงคนสร้างฐานลูกค้า ในช่วงขั้นตอนที่ 1 นี้อยากออกเมนูอะไรทำเลย ทำตามที่คิดให้เต็มที่ เน้นผลลัพธ์สร้างฐานลูกค้าเป็นหลัก ปัญหาอื่นรับรู้แต่เก็บไว้ก่อน ระยะเวลาตอบไม่ได้ว่าจะนานเท่าไหร่ ดูจากจำนวนลูกค้าที่เข้ามาถ้ามีจำนวนตามต้องการได้เฉลี่ยต่อเนื่องทุก ๆ เดือน ๆ ก็ถือว่าผ่านขั้นตอนที่ 1 ได้
  • ขั้นตอนที่ 2 ช่วงปรับปรุง เป็นช่วงที่หลาย ๆ คนต้องเผชิญอยู่ตอนนี้ คือ การนำผลลัพธ์จากขั้นตอนที่ 1 มาหาข้อปรับปรุง จุดไหนของร้านไม่ดี ไม่ลงตัวปรับแก้ทุกอย่าง ทุกจุด ทุกเรื่อง ทั้งนโยบาย กฎระเบียบ มาตรฐานการทำงานแต่ละส่วน เมนูไหนขายไม่ดีก็ปรับออก ให้เหลือแต่เมนูที่ขายดี ทำกำไรให้เรา ขั้นตอนนี้ใช้เวลาได้เร็วขึ้น เพราะเรามีโจทย์จากขั้นตอนแรกมาแล้วว่าจะต้องปรับปรุงอะไรบ้าง 
  • ขั้นตอนที่ 3 ช่วงขายทำยอดเป็นหลัก เป็นช่วงของการทำยอดขายอย่างเดียว ขายทุกอย่างที่จะทำเงินเข้าร้านได้ มองทุกจุดว่าเราจะขายอะไรได้บ้างนอกจากเมนูในร้าน เราสามารถทำน้ำซอสขายได้มั้ย ทำของที่ระลึก หรืออะไรก็ตามที่จะทำรายได้เข้าร้าน
  • ขั้นตอนที่ 4 ช่วงได้เวลาขยาย เมื่อเรามีฐานลูกค้าแล้ว มีการปรับปรุงพัฒนาร้านลงตัวทุกจุดแล้ว มียอดขายตามเป้าทุกเดือนแล้ว ก็ถึงช่วงเวลาของการเติบโตพร้อมขยายสาขา หรือจะเป็นแฟรนไชส์ก็แล้วแต่ทางถนัด เพราะถึงขั้นตอนนี้นั่นหมายความว่า ร้านเรามีระบบทุกอย่างเป็นมาตรฐานลงตัวแล้ว การจะขยายสาขาก็ไม่ใช่เรื่องยาก
เปลี่ยนสีร้านแล้วยังขายไม่ดีทำไง?

ถ้าใครเปลี่ยนฮวงจุ้ยแล้วยังขายไม่ได้ ต้องลองทำตาม 7 วิธีขายของดี ฝ่าวิกฤตโควิด 19 เหล่านี้ดู โดยวิธีส่วนใหญ่ที่แอดมินรวบรวมมาให้ถือเป็นวิธีที่มีแม่ค้าทำตามแล้วขายดีทุกราย เช่น การขายด้วยจิตวิทยาลดราคาซื้อใจ, การขายดีด้วยการอัดแคมเปญโดนใจ หรือการขายดีด้วยการเปิดคลาส คืนกำไรให้ลูกค้า ฯลฯ สามารถไปลองอ่านวิธีง่าย ๆ ได้เลย

บูชาอะไรทำให้ขายดี?

ถ้าทำตามวิธีขายดีแล้วยังไม่เวิร์ก ก็ต้องมูเตลูกันด้วย นางกวัก โดยนางกวักนั้นเป็นเครื่องรางที่คนไทยนิยมบูชาอย่างมาก โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ขายนิยมบูชามมาตั้งแต่อดีต เชื่อว่านางกวักสามารถเรียกลูกค้า ดึงลูกค้าเข้าร้าน และทำให้ขายดีขึ้น บูชาได้ง่าย ๆ โดยการถวายน้ำแดงและท่องคาถาบูชาได้

คาถาขายของดีมีไหม?

คาถาขายดี หรือคาถาเรียกลูกค้าก็เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ขายดี แม่ค้าหลายรายใช้คาถาแล้วขายดีจริง ลองเอาไปใช้ได้ โดยคาถาที่นิยมคือคาถาขายดีมีลูกค้าเข้าร้าน สามารถท่องง่าย ๆ ดังนี้ “โอมอิติพุททัตสะ สุวันนัง วารัชชะคัง วามะนีวาวัตตัง วาพัพพะยัน ละเอหิคาคัชวันติ”

สรุป

การเลือก สีที่ควรใช้ในร้านอาหาร การเลือกโทนสีก่อนตกแต่งหรือปรับปรุงร้านอาหาร นับว่ามีความสำคัญ เพราะนอกจากจะตกแต่งให้ร้านสวยแล้ว สีที่เลือกใช้นั้นส่งผลต่อร้านอาหารมากกว่าที่คิด สีสามารถกระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกอยากอาหารได้ รวมทั้งทำให้ลูกค้าไม่อยากอาหารได้เช่นกัน ฉะนั้นจึงไม่ควรมองข้ามเรื่องนี้ไปเป็นอันขาด

มากไปกว่านั้น การเปิดร้านอาหารเป็นเรื่องที่ง่ายก็จริงแต่การทำให้อยู่รอดนั้นเป็นไปได้ยาก หากใครที่กำลังประสบปัญหาก็ลองนำ 4 ขั้นตอนที่ Ruay แนะนำไปลองปรับใช้กันดูนะ ถือเป็นขั้นตอนที่เป็นระบบต่อเนื่องเชื่อมโยงกันอย่างดี มีโจทย์ให้ได้ทำในแต่ละขั้นตอนอย่างชัดเจน

ใครที่กำลังคิดจะทำร้านอาหารอยู่ นำไปเป็นแนวทางวางแผนทำร้านของตัวเองกันได้ ซึ่งได้ผลอย่างไรก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะ เป็นกำลังใจให้กับทุกผู้ประกอบการ ขอให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ไว ๆ

ขอบคุณภาพบางส่วนจาก pinterest

บทความแนะนำอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

Facebook
Twitter
Email