พระมหาเจดีย์ชัยมงคล

พระมหาเจดีย์ชัยมงคล เจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ ที่เกิดมาต้องไปไหว้

ถ้าได้ไปไหว้ พระมหาเจดีย์ชัยมงคล… ถือว่าเป็นบุญยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของชีวิต! เพราะว่าสถานที่แห่งนี้ ไม่ได้มีแค่ความวิจิตรพิสดาร จนน่าขนลุกเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความสำคัญต่อชาวอีสานทั้ง 19 จังหวัดอีกด้วย พวกเขาร่วมเงินทำบุญสร้างมากกว่า 80 ล้านบาท!… ไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อแล้วแหล่ะ!

ใครที่ไม่รู้จัก พระมหาเจดีย์แห่งดินแดนร้อยเอ็ด เชิญทางนี้! ruay จะพาไปเปิดหูเปิดตา พาไปดูประวัติพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ความงดงามตระการตา และ 3 สิ่งที่ห้ามพลาด เมื่อได้ไปเยี่ยมชมพระมหาเจดีย์… อยากรู้แล้วว่ามีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย!

ความสำคัญของพระมหาเจดีย์ชัยมงคล

ชาวไทยทุกคนควรรู้ว่า… “พระมหาเจดีย์ชัยมงคล” เป็นเจดีย์องค์ใหญ่ ที่มีความวิจิตรตระการตามากที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทย! อันเป็นพุทธสถานที่สะท้อนถึงพลังศรัทธาของชาวอีสาน และความรุ่งเรืองของชาวร้อยเอ็ด!

มุมบนพระมหาเจดีย์ชัยมงคล

สิ่งที่สำคัญก็คือ… พระมหาเจดีย์แห่งนี้ เป็นพระธาตุเจดีย์ที่บรรจุ “พระบรมสารีริกธาตุ” หรือ พระอัฐิของพระพุทธเจ้า ที่คงเหลือไว้หลังจากมีการถวายพระเพลิง อันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน นอกจากนั้นยังเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนของพระเกจิอาจารย์ในอดีตทั้ง 101 องค์อีกด้วย!

รูปเหมือน 101 องค์

ใครที่ได้โอกาสไปกราบไหว้ ถือเป็นบุญยิ่งใหญ่มาก… เพราะสถานที่แห่งนี้ ยังเป็นศูนย์กลางของการฝึกอบรม “การปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน” โดยการปฏิบัติจริง ตามแนวทางของพระพุทธเจ้า ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์ที่บอกประวัติของพระองค์ รวมทั้งภาพพุทธประวัติ และภาพทศชาติชาดกต่าง ๆ

ประวัติการสร้างพระมหาเจดีย์ชัยมงคล

แรกเริ่มเดิมที… พระมหาเจดีย์ชัยมงคลนั้น ได้เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2528 ตามพระประสงค์ของ “พระเทพวิสุทธิมงคล” (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) ท่านได้ตกลงกับที่ประชุมให้จัดสร้างพระมหาเจดีย์ขึ้น ที่เทือกเขาเขียว บริเวณใกล้กับ “วัดถ้ำผาน้ำทิพย์” (วัดผาน้ำย้อย) เพื่อเป็นที่ประดิษฐานของ “พระบรมสารีริกธาตุ”…

ความน่าอัศจรรย์ ก็คือ… เริ่มแรกนั้น หลวงปู่ศรี มหาวีโร ไม่มีทุนในการจัดสร้าง แต่พอได้ประกาศขอระดมทุนจากชาวอีสาน ปรากฏว่า ทุนที่ใช้ในการสร้าง ได้หลั่งไหลมาจากการทอดผ้าป่า ทั่วภาคอีสาน 19 จังหวัด! เป็นจำนวน 84,000 กอง กองละ 1,000 บาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 84 ล้านบาท! จึงถือได้ว่าพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ถูกสร้างจากแรงศรัทธาของชาวอีสานทั้งมวล!

ด้านหน้าพระมหาเจดีย์ชัยมงคล

หลังจากนั้น…จึงได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์และลงเสาเอกในวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2531 โดยใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมดร่วม 10 กว่าปี! วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 ได้มีพิธียกยอดฉัตรที่สร้างด้วยทองคำ และวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 ได้ทำพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ไว้ชั้นบนสุดของพระมหาเจดีย์… 

จนสุดท้ายแล้ว… เมื่อเวลาผ่านไป 8 ปี จึงมีการจัดตั้งเป็น “วัดเจดีย์ชัยมงคล” ในวันที่ 17 มิถุนายน 2548 และแต่งตั้งให้ “พระครูปลัดทองอินทร์” (หลวงพ่ออินทร์ กตปุญโญ) เป็นเจ้าอาวาสวัดเจดีย์ชัยมงคล… ประวัติยาวหน่อย แต่รู้ไว้ก็ดีนะจ๊ะ เผื่อเอาเลขเด็ดไปใช้ได้งวดหน้า!

ความงดงามของพระมหาเจดีย์ชัยมงคล

พูดไปก็หาว่าอวย! รู้มั้ยว่า… พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ถูกออกแบบโดยช่างมากฝีมือจาก “กรมศิลปากร” โดยเป็นศิลปกรรมผสมผสาน ระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน “พระปฐมเจดีย์” ผสมกับ “พระธาตุพนม” ทำให้พระมหาเจดีย์แห่งนี้ มีความวิจิตรพิสดารอย่างมาก!

พระมหาเจดีย์… มีสีขาว ตกแต่งด้วยลวดลายตระการตา สีทองเหลืองอร่าม บนยอดทองคำใช้ทองคำหนักถึง 60 กิโลกรัม รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศ อันมีความกว้าง 101 เมตร ความยาว 101 เมตร ความสูง 101 เมตร และสร้างในเนื้อที่ 101 ไร่ อันเป็นเคล็ด ที่มาจากชื่อของจังหวัด “ร้อยเอ็ด” อีกด้วย อลังการมากแม่!

ภายในพระมหาเจดีย์

ภายในพระมหาเจดีย์ จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 ชั้น ได้แก่…

  • ชั้นที่ 1 เป็นห้องโถงกว้างใหญ่โอ่อ่า ผนังจารึกนามทานาธิบดีต่าง ๆ ใช้เป็นห้องประชุม บำเพ็ญบุญ
  • ชั้นที่ 2 เป็นห้องโถงโอ่อ่าเช่นกัน ผนังติดตั้งรูปพระพุทธประวัติ มีลวดลายไทยวิจิตร สวยงามมาก!
  • ชั้นที่ 3 เป็นที่ประดิษฐานรูปพระณาจารย์ ปราชญ์ อีสานในอดีต เป็นรูปเหมือนสลักหินอ่อน และหุ่นรูปเหมือนพระสุปฏิปันโน 101 องค์
  • ชั้นที่ 4 จัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงวัดวาอาราม สถานปฏิบัติสมถะวิปัสสนา กรรมฐานที่หลวงปู่ศรีเคยบำเพ็ญธรรมมา
  • ชั้นที่ 5 มีบันไดเวียน 119 ชั้น เป็นห้องโถงรูประฆัง 8 เหลี่ยมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ยอดพระมหาเจดีย์ชัยมงคล

สิ่งที่ห้ามพลาด! เมื่อไปพระมหาเจดีย์ชัยมงคล

สำหรับใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยว สุดสัปดาห์นี้! นอกจากจะต้องไปเดินชมภายในพระเจดีย์ ทั้ง 5 ชั้นแล้ว ก็ยังมีอีก 3 สิ่งที่ห้ามพลาด! นั่นก็คือ…

กำแพงแห่งศรัทธา

กำแพงศรัทธา พระมหาเจดีย์

หลวงพ่ออินทร์เป็นผู้นำคณะศิษยานุศิษย์ ทำการก่อสร้างถวายบูชาคุณ “หลวงปู่ศรี มหาวีโร” จุดเด่นของกำแพงแห่งนี้… ตัวกำแพงมีความสูง 5 เมตร กว้าง 4 เมตร ยาว 3,500 เมตร ชั้นบนสามารถเดินชมวิวได้โดยรอบ ชั้นล่างเป็นที่ปฏิบัติธรรม มีห้องน้ำมากถึง 1,000 ห้อง เพื่ออำนวยความสะดวกของผู้คนที่เดินทางไปยังวัดแห่งนี้

เจดีย์บรมพุทโธ (บูโรบูโด) จำลอง

เจดีย์บรมพุทโธจำลอง

เป็นสถาปัตยกรรมที่ถูกจัดสร้างโดย ชาวพุทธจากประเทศอินโดนีเซีย และส่งทีมงานช่างมาติดตั้ง ถวายเป็นพุทธบูชาให้กับทางพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ใครอยากเห็นว่าศิลปะแนวฮินดูชวา (ศิลปะแบบอินเดียผสมอินโดนีเซีย) เป็นอย่างไร ห้ามพลาดเด็ดขาด!

ตำหนักรับรองสมเด็จพระสังฆราช

ด้านในตำหนัก

เป็นสถานที่ ที่สร้างไว้เพื่อรองรับการมาเยือนของสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งองค์ปัจจุบัน ก็คือ “สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ” (อัมพร อมฺพโร) ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ใครที่แวะไปกราบไหว้พระมหาเจดีย์ สามารถเดินชมได้นะ!

ข้อปฏิบัติ ในการเยี่ยมชมพระมหาเจดีย์

เมื่อไปถึงที่พระมหาเจดีย์แล้ว… ควรสำรวมกิริยาและปฏิบัติดังต่อไปนี้ ได้แก่…

  • ถอดหมวก ถอดรองเท้า
  • ห้ามส่งเสียงดัง
  • ห้ามนำสัตว์เลี้ยงขึ้นบนเจดีย์
  • กรุณาอย่าจับต้องลวดลายต่าง ๆ
  • ไม่นำอาหาร ขนม เครื่องดื่ม ขึ้นไปรับประทานบนพระมหาเจดีย์
  • ห้ามจุดธูป-เทียนในองค์พระมหาเจดีย์
  • กรุณาแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย
  • ห้ามสูบบุหรี่ และเสพของมึนเมา
วิวพระมหาเจดีย์ชัยมงคล

การเข้าชมพระมหาเจดีย์ชัยมงคล

สำหรับใคร ที่ชัวร์แล้วว่า จะไปเที่ยวที่นี่… เดินทางไปได้เลยที่ “วัดเจดีย์ชัยมงคล” ตั้งอยู่บริเวณ “วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วราราม” ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด! ระยะทางจากตัวเมืองประมาณ 80 ก.ม. สามารถเดินทางได้ด้วยรถส่วนตัว

การเดินทาง… สามารถไปตามเส้นทางสายร้อยเอ็ด – อำเภอโพนทอง – อำเภอหนองพอก ระยะทาง 62 กิโลเมตร จากตัวเมืองร้อยเอ็ด ตามทางหลวงหมายเลข 2044 และ 2136 ได้เลย… หรือถ้าเข้าใจยากก็เปิด Google Map เอาได้ หาไม่ยาก!

เวลาเปิดเข้าชม… เปิดทำการทุกวัน ระหว่างเวลา 06.00 – 17.00 น. สามารถเข้าชมได้ฟรี! ไม่เสียเงินสักบาท แต่อย่าลืมเตรียมเงินไว้ทำบุญอย่างเดียวก็พอ! ขอบอกว่า… ถ้าได้มีโอกาสสักครั้งในชีวิต ไปไหว้พระมหาเจดีย์ชัยมงคล รับรองชีวิตรุ่งเรือง ทำอะไรก็ราบรื่นจ้า!

ประตูทางเข้าพระมหาเจดีย์ชัยมงคล
ไปอีสานควรไปวัดใด?

ใครที่ต้องการปลีกวิเวกไปอยู่วัดเงียบ ๆ สักพัก เพื่อฝึกกรรมฐานหรือนั่งสมาธิควรไปที่ วัดป่าภูก้อน จังหวัดอุดรธานี ที่วัดแห่งนี้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ที่หาที่ไหนไม่ได้ ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยและย้อนยุค โดยตั้งอยู่กลางป่าลึกกลางธรรมชาติที่อากาศเย็นสบาย อีกทั้งตอนดึกยังเห็นดาวได้สวยงามอีกด้วย ถ้าไปต้องไปไหว้พระพุทธไสยาสน์ฯสำหรับคนเกิดวันอังคารโดยเฉพาะ

วัดในขอนแก่นวัดใดต้องไปไหว้?

นอกจากวันป่าภูก้อนจังหวัดอุดรแล้ว ก็ต้องไปเที่ยวที่ขอนแก่นด้วยถ้าหากได้มีโอกาสได้ไปอีสาน โดยสามารถไปไหว้ 9 วัดดัง จ.ขอนแก่น กันได้เลย โดยวัดที่ห้ามพลาดที่เป็นศูนย์รวมใจของคนอีสานก็คือ พระมหาธาตุแก่นนคร, พระธาตุขามแก่น, วัดพระพุทธบาทภูพานคำ ฯลฯ และที่วัดดังที่ห้ามพลาด “วัดถ้ำผาเกิ้ง” เป็นวัดที่สวยงามมากต้องไปให้ได้สักครั้ง

ทำบุญเสริมโชคลาภต้องทำยังไง?

ใครอยากเสริมดวงสามารถทำได้หลายทาง หนึ่งในนั้นก็คือการบูชา พญานาค ซึ่งพญานาคนั้นถือเป็นสัตว์มงคลในตำนานของชาวพุทธฮินดูที่มีความสำคัญมาก โดยเป็นเทพแห่งหนองน้ำ ลำธาร เป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ร่ำรวย จึงทำให้มีคนบูชาพญานาคและถูกหวยรางวัลที่ 1 กันมาจำนวนมาก

สรุปส่งท้าย

สำหรับใครที่อ่านข้าม… พระมหาเจดีย์ชัยมงคล เป็นเจดีย์ที่ใหญ่และสวยงามที่สุด แห่งหนึ่งในประเทศไทย เป็นความภาคภูมิใจของชาวอีสาน ที่ร่วมศรัทธาสร้างงบประมาณกว่า 84 ล้านบาท! โดยพระมหาเจดีย์แห่งนี้ มีความสำคัญคือ เป็นสถานที่เก็บ “พระบรมสารีริกธาตุ” หรือ พระอัฐิของพระพุทธเจ้า…

ใครมีโอกาสได้ไปกราบไหว้พระมหาเจดีย์… ถือว่าเป็นบุญยิ่งใหญ่ที่ได้เกิดมาครั้งหนึ่ง เพราะว่าสถานที่แห่งนี้ ยังเป็นศูนย์กลางของ “การปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน” ตามแนวทางของพระพุทธเจ้า และมีพิพิธภัณฑ์ที่บอกประวัติของพระองค์ และภาพทศชาติชาดกต่าง ๆ อีกด้วย ใครไปพลาดไม่ได้เลย!

และที่สำคัญ! ถ้าได้ไปก็อย่าลืมแวะไปชมสิ่งที่ห้ามพลาด ได้แก่ กำแพงแห่งศรัทธา, ตำหนักรับรองสมเด็จพระสังฆราช และ “เจดีย์บรมพุทโธ” (บูโรบูโด) จำลองด้วยนะ สวยงามมาก พลาดไม่ได้เชียว!

ขอบคุณภาพบางส่วนจาก wordpress

บทความแนะนำ

Facebook
Twitter
Email