ไข่มุก

รู้จัก ความหมายของการใส่ “ไข่มุก” อัญมณีแห่งโชคลาภ ใต้ท้องทะเล

“ไข่มุกเมโล” ยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องในโลกออนไลน์ หลังจากที่มีคนพบเจอ ไข่มุก ชนิดนี้ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แล้วมีหลายคนต่างแย่งให้ราคาสูง จนตอนนี้ราคาพุ่งไปแล้วถึงหลัก 10 ล้านบาท ทำให้หลาย ๆ คนที่ติดตามข่าวเกิดความสงสัยว่า ไข่มุกเมโล ราคา สูงขนาดนั้นจริง ๆ หรอ ฉะนั้นวันนี้ Ruay 365 จึงจะพาทุกคนไปไขข้อสงสัย “รู้จริงเรื่องมุก” และ “ความหมายของการใส่มุก” อัญมณีล้ำค่าแห่งท้องทะเลที่ใครต่างก็อยากได้ พร้อมกันที่นี่

ไข่มุก และ ไข่มุกเมโล คืออะไร

ไข่มุก
ไข่มุก (Pearl)

ไข่มุก (Pearl) ไม่ใช่ไข่ของสัตว์ แต่ด้วยลักษณะทรงกลม ทำให้เรียกแต่เริ่มเดิมทีว่า “ไข่” สามารถพบได้ในตัว “หอยมุก” กล่าวคือ ไข่มุกเกิดจาก การที่หอยมุกเกิดการระคายเคืองเมื่อมี วัตถุแปลกปลอมขนาดเล็กถูกพัดพาเข้าไปภายในตัวหอยมุก เช่น กรวดทราย เศษหิน ทำให้ตัวหอยมุกระคายเคืองจนหลั่งสารเป็นชั้นมุกที่เรียกว่า “เนเคอร์” (Nacre) ออกมาเคลือบเพื่อลดความระเคืองเหล่านั้น 

ยิ่งชั้นเนเคอร์หนามาก ก็ยิ่งมีความวาวมาก ซึ่งหอยมุกจะทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าความรำคาญจะหมดไป และเมื่อเวลาผ่านไปหลายปี เมือกนั้นก็จะเคลือบทับซ้อนกันเป็นชั้น ๆ จนมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นไข่มุกในที่สุด ซึ่งจริง ๆ แล้วไข่มุกอาจเกิดได้จากหอยอีกหลาย ๆ ชนิด โดยส่วนใหญ่แล้ว ไข่มุกจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

  • ไข่มุกธรรมชาติ (Natural Pearl) **เป็นไข่มุกที่หายาก และค่อนข้างแพง
  • ไข่มุกเลี้ยง (Cultured Pearl) **ยังคงเป็นไข่มุกแท้ พียงแต่ไม่ได้รอให้เกิดขึ้นเองธรรมชาติ แต่มนุษย์เป็นคนทำให้เกิด
  • ไข่มุกเทียม (Pearl Imitation) **ไข่มุกที่ทำมาจากวัสดุอื่นที่มีลักษณะมันวาว หล่อขึ้นรูปเป็นทรงกลมและใส่สีเลียนแบบไข่มุกธรรมชาติ
ไข่มุก
ไข่มุกเมโล (Melo Pearl)

ส่วน ไข่มุกเมโล (Melo Pearl) ที่กำลังเป็นกระแสฮือฮาอยู่นั้น ก็เป็นไข่มุกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติชนิดหนึ่ง แต่ไข่มุกเมโลจะเกิดจาก “หอยทากทะเล” (Sea snail) และมีโอกาสประมาณ 1 ตัวในทุก ๆ 3,000 ตัวที่จะเกิดไข่มุกเมโลขึ้นมาได้ ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในไข่มุกที่หายากและมีราคาแพงที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง โดยในโลกนี้มีแค่ 4 ประเทศเท่านั้นที่จะพบไข่มุกเมโล ได้แก่

  • ประเทศเมียนมา (พม่า) พบได้ในทะเลอันดามันและอ่าวเบงกอล
  • ประเทศเวียดนาม พบได้ในทะเลจีนใต้
  • ประเทศกัมพูชา พบได้ในอ่าวไทย
  • ประเทศไทย พบได้ในทะเลอันดามันและอ่าวไทย

เนื่องจากประเทศไทย เป็นเพียง 1 ใน 4 ของประเทศในโลกที่จะพบไข่มุกเมโล สาเหตุนี้นี่เองที่ทำให้เข้าใจได้ว่าเมื่อมี ข่าวพบไข่มุกเมโลของจริง จึงกลายเป็นที่พูดถึงในสื่อโลกออนไลน์ เพราะเป็น ไข่มุกหายาก และมีราคาแพงมูลค่ามหาศาลนับล้านบาท ที่ใคร ๆ ต่างก็ปรารถนามีไว้ครอบครอง 

ส่วนสาเหตุที่หลายครั้งมีคนพบเจอไข่มุกเมโลนั้น จะต้องมีการตรวจสอบก่อนว่าเป็น ไข่มุกเมโลก ของแท้ หรือไม่ เพราะไข่มุกเมโลนั้นสามารถปลอมขึ้นได้จากตัวเปลือกของมันเอง โดยนำมาตัด กลึงและย้อมสีจนมีลักษณะเหมือนไข่มุกเมโล อ่าน ข่าวไข่มุกเมโล ที่นี่!!

ไข่มุก ความเชื่อ

จุดเริ่มต้นของการนำ ไข่มุก มาเป็นเครื่องประดับ เริ่มต้นขึ้นจากชุมชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำซึ่งทำการประมงในทวีปเอเชีย ได้ค้นพบเม็ดไข่มุกจากการทำการประมง และจากลักษณะที่สวยงามของมันก็ทำให้มันมีราคาค่างวดขึ้นมา จนในที่สุดไข่มุกก็กลายเป็นเครื่องประดับชั้นดีที่ใส่ง่ายและดูดีเหมาะสมทุกโอกาส 

และในปัจจุบันได้กลายเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ นอกจากนี้ ความหมายของการใส่มุก ยังมีความเชื่อว่า ไข่มุกนำโชค แตกต่างกันออกไปในหลาย ๆ ประเทศ เช่น

  • ยุคสมัยที่กรีกและโรมัน เชื่อว่า ไข่มุก ถือกำเนิดขึ้นจากหยาดน้ำตาของเทพธิดาที่หยาดหยดลงมาในท้องทะเล เพื่อประทานแด่มวลมนุษย์ทั้งหลาย ไข่มุกจึงถือเป็นอัญมณีแห่งสายน้ำ เปรียบได้ดั่งสัญลักษณ์ของเพศหญิง เป็นตัวแทนของความนุ่มนวล อ่อนหวาน และสงบ

พลังอำนาจของไข่มุก ยังช่วยบำบัดภาวะอารมณ์ที่ไม่สมดุลได้ด้วย โดยไข่มุกจะนำความรัก ความสุข และความสำเร็จมาสู่เจ้าของ มากไปกว่านั้นยังมีความเชื่อด้านสุขภาพว่า ช่วยรักษาอาการร้อนใน โรคไต หอบหืด บรรเทาอาการแผลพุพองและฝีหนอง และคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

  • คนโบราณตามเกาะชายฝั่งทะเลต่าง ๆ ก็มีความเชื่อว่า ไข่มุก เป็นอัญมณีแห่งโชคลางที่มีอาถรรพ์ซ่อนอยู่ คือ ถ้าไข่มุกไม่เปล่งแสงแวววาวหรือมีสีหมองลงจะมีเรื่องโชคร้ายเกิดขึ้นตามมา และในสมัยยุคมืด ไข่มุกก็เคยถูกใช้เป็นเครื่องรางของเหล่าอัศวินภายใต้ความเชื่อที่ว่า ไข่มุกสามารถปกป้องอันตรายยามออกรบได้ ซึ่งต่างกับสมัยนี้ที่ไม่ค่อยมีผู้ชายใส่เครื่องประดับไข่มุกเท่าไหร่
  • ความหมายของการใส่มุก สำหรับคนญี่ปุ่นโบราณ เชื่อว่า ไข่มุกคือหยาดน้ำตาแห่งเทพีแสงจันทร์ ดังนั้นจึงไม่นิยมให้เป็นของขวัญหรือใส่สร้อยไข่มุกไปในงานแต่งงาน เว้นแต่ว่าจะมอบเป็นของขวัญเมื่อครบรอบแต่งงานปีแรก ปีที่ 12 และปีที่ 30 เท่านั้น
  • สำหรับไทยเรา ในสมัยก่อนสตรีสูงศักดิ์ในราชสำนัก ต่างก็นิยมสวมใส่ไข่มุกด้วยเช่นกัน โดยมีการริเริ่มสนใจและสวมใส่กันอย่างกว้างขวางมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีการติดต่อกับชาติตะวันตกอย่างกว้างขวาง สตรีไทยในราชสำนักจึงนิยมแต่งกายตามแบบฝรั่ง และสวมใส่เครื่องประดับไข่มุกเป็นเครื่องประดับคู่กาย เพื่อแสดงออกถึงความสูงส่ง ความนุ่มนวล อ่อนหวาน ความบริสุทธิ์ รวมถึงความจริงใจ ซึ่งต่างกับสมัยนี้ที่เราทุกคนสามารถสวมใส่ ไข่มุก เป็นเครื่องประดับได้ในหลาย ๆ โอกาส

ความหมายของมุกแต่ละสี

ไข่มุก

ไข่มุก นั้นไม่ได้มีเพียงสีขาวสีเดียวอย่างที่เราคุ้นเคยกัน เพราะแท้จริงแล้ว สีของไข่มุกที่นิยมทำมาทำเป็นเครื่องประดับ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ 

  • สีโทนอ่อน เช่น สีขาว สีเนื้อ สีเหลือง สีชมพู
  • สีโทนดำ เช่น สีเทามืด สีดำ

ซึ่งเดิมทีนั้นมุกธรรมชาติมักจะมีสีขาวเหลือบรุ้งแวววาว แต่สำหรับปัจจุบันที่มีการทำอุตสาหกรรมหอยมุก ไข่มุกจึงไม่ได้มีสีเดียวอีกต่อไป แต่มีมุกเลี้ยงที่สามารถให้สีได้มากมายตามที่ใจปรารถนา พร้อมกับความหมาย ไข่มุกนำโชค ที่แตกต่างกันออกไป อาทิเช่น 

  • ไข่มุกสีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ ความจริงใจ ความศรัทธา อิสระ เสรีภาพ และความซื่อสัตย์
  • ไข่มุกสีชมพู หมายถึง ความรัก ความภักดี ความสุข และความปรารถนาที่จะปกป้อง คุ้มครอง    
  • ไข่มุกสีดำ หมายถึง มนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหล ความลึกลับ การปกป้องคุ้มครอง และความรุ่งเรือง
  • ไข่มุกสีน้ำตาล หมายถึง สติปัญญา ความกลมกลืน การปกป้อง รวมถึงเสถียรภาพ และความน่าเชื่อถือ 
  • ไข่มุกสีเขียว หมายถึง ความสุข ความสมดุล สติปัญญา สันติภาพ ความยุติธรรม ความโชคดี และการเงิน 
  • ไข่มุกสีทอง หรือ ไข่มุกสีเหลือง หมายถึง ความสำเร็จ ความร่ำรวย ความเจริญก้าวหน้า ความกล้าหาญ และสติปัญญา
  • ไข่มุกสีเหลือง หมายถึง มิตรภาพ ความคิดสร้างสรรค์ ความสุข ความสดชื่นแจ่มใส และสุขภาพที่ดี
  • ไข่มุกสีเงิน หมายถึง ความสงบเยือกเย็น สติปัญญา ความอดทน การควบคุมตนเอง และศักดิ์ศรี

ไข่มุกตามวันเกิด

อย่างที่ได้กล่าวไปว่า ไข่มุก เปรียบได้ดั่งเครื่องประดับนำโชค เครื่องประดับเสริมดวง ฉะนั้นแล้วการเลือก สีอัญมณีประจำวันเกิด หรือ สีไข่มุกเสริมดวง ก็เป็นอะไรที่ช่วยสร้างความเป็นสิริมงคลในชีวิต และเสริมบารมีในด้านต่าง ๆ ได้ โดย ไข่มุกตามวันเกิด สามารถดูได้จากการเลือกสีที่ถูกโฉลก ดังนี้

คนเกิดวันอาทิตย์

  • บริวารรัก : แดงสด, ส้ม, ทับทิม
  • อายุยืน : ขาว
  • มีอำนาจ : ชมพู, ม่วง, ดำ
  • ร่ำรวย : เขียว

คนเกิดวันจันทร์

  • บริวารรัก : ขาว
  • อายุยืน :  ชมพู, ม่วง, ดำ
  • มีอำนาจ : เขียว
  • ร่ำรวย : ดำ, ม่วง, เทา

คนเกิดวันอังคาร

  • บริวารรัก : ชมพู, ม่วง, แดง, ดำ
  • อายุยืน : เขียว
  • มีอำนาจ : ดำ, ม่วง, เทา
  • ร่ำรวย : เหลือง

คนเกิดวันพุธ (กลางวัน)

  • บริวารรัก : เขียว
  • อายุยืน : ดำ, ม่วง, เทา
  • มีอำนาจ : เหลือง
  • ร่ำรวย : เขียว

คนเกิดวันพุธ (กลางคืน)

  • บริวารรัก : เขียว
  • อายุยืน : น้ำเงิน, ฟ้า
  • มีอำนาจ : แดง
  • ร่ำรวย : ขาว

คนเกิดวันพฤหัสบดี

  • บริวารรัก :  เหลือง
  • อายุยืน : เขียว
  • มีอำนาจ : น้ำเงิน, ฟ้า
  • ร่ำรวย : แดง

คนเกิดวันศุกร์

  • บริวารรัก : น้ำเงิน, ฟ้า
  • อายุยืน : แดง, ส้ม, ทับทิม
  • มีอำนาจ : ขาว
  • ร่ำรวย : ชมพู, ม่วง, แดง, ดำ

คนเกิดวันเสาร์

  • บริวารรัก : ดำ, ม่วง, เทา
  • อายุยืน : เหลือง
  • มีอำนาจ : เขียว
  • ร่ำรวย : น้ำเงิน, ฟ้า

สรุป

ไข่มุก  นอกจากจะนำมาเป็นเครื่องประดับสวย ๆ ให้เราใส่แล้วช่วยให้เราดูดีขึ้นแล้ว อัญมณี ชนิดนี้ยังมีคุณค่าและพลังบางอย่างที่ซ่อนเอาไว้ จนได้ชื่อว่าเป็น “อัญมณีแห่งโชคลาภ” และด้วยความที่ต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะด้วยพลังธรรมชาติได้อย่างสวยงามทำให้ไข่มุกเป็นเครื่องประดับที่มีราคาสูง 

เช่นเดียวกับ ไข่มุกเมโล ก็เป็นไข่มุกชนิดหนึ่งที่ต้องใช่การบ่มเพาะจากธรรมชาติด้วยเหมือนกัน แต่ด้วยเหตุที่ว่าไข่มุกเมโลมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในไข่มุกที่หายากและมีราคาแพงที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้เข้าใจได้ว่า ไข่มุก นับว่าเป็นอัญมณีล้ำค่าแห่งท้องทะเลอย่างแท้จริง

สุดท้ายนี้ใครที่ชื่นชอบในการใส่เครื่องประดับ เมื่อทราบถึง พลังอำนาจของไข่มุก ความหมายของมุกแต่ละสี และ ไข่มุกตามวันเกิด ตามที่ Ruay ได้แนะนำไป ก็ลองเอาไปพิจารณาก่อนนำมาสวมใส่กันดู และเราเชื่อว่ามุกจะเป็นเครื่องประดับชั้นดีที่ใส่ง่ายและดูดีเหมาะสมกับทุก ๆ โอกาสได้อย่างไม่เชื่อ

บทความแนะนำอื่นๆที่น่าสนใจ

Facebook
Twitter
Email