ดอกไม้มีพิษ

13 ดอกไม้มีพิษ อันตรายถึงชีวิต ห้ามปลูกในบ้าน

บุรุษมักเปรียบเทียบ “สตรี” งดงามและบอบบางดุจ “ดอกไม้” แต่แท้จริงหารู้ไม่ว่า “ดอกไม้” นี้แหละแฝงไปด้วยพิษและเล่ห์เหลี่ยมร้อยแปด… ดอกไม้บางพันธุ์ที่เราเห็น มีสีสันสดใสสวยงาม มีกลิ่นหอมหวนชวนให้ดม แต่รู้ไหมว่าบางชนิดกลับเป็น ดอกไม้มีพิษ

ดังนั้นก่อนที่จะนำดอกไม้มาประดับในบ้าน คุณควรศึกษาให้ดีก่อนว่าดอกไม้สายพันธุ์ไหนเด็ดได้ หรือทำได้เพียงแค่มองเท่านั้น เพราะดอกไม้อันเลอค่านี้เอง ที่อาจสังหารคุณได้ในชั่วพริบตาเพียงแค่สัมผัส! ตาม ruay ไปดูกันเลยว่า 13 ดอกไม้มีพิษ ที่ห้ามปลูกในบ้าน มีพันธุ์อะไรบ้าง!

13 ดอกไม้มีพิษ ที่ห้ามปลูกในบ้านเด็ดขาด!

ดอกหน้าวัว

ดอกหน้าวัวสีแดง

ดอกไม้มีพิษ ชนิดแรก ที่ห้ามนำมาปลูกในบ้านเด็ดขาด ก็คือ “ดอกหน้าวัว”  (ANTHURIUM) เจ้าดอกไม้ชนิดนี้ภายนอกก็บ่งบอกอยู่แล้วว่า มันมีหางยาวออกมาเหมือนหางแมงป่อง และยังซ่อนพิษที่จะทำให้ผิวหนังของเราไหม้ได้เพียงแค่สัมผัส ถ้าหากใครเผลอแตะโดนยางของมันจะทำให้ผิวอักเสบ ปวดแสบปวดร้อน บวมพองเป็นตุ่มน้ำใส ส่วนใครที่เผลอขยี้ตาจะทำให้ตาอักเสบ หรือร้ายแรงถึงขั้นทำให้ตาบอดได้!

ดอกโป๊ยเซียน

โป๊ยเซียน

ใครที่ปลูกต้น “โป๊ยเซียน” (Euphorbia milli) เพื่อเสริมโชคลาภ รู้ไหมว่ามันเป็น ดอกไม้มีพิษ ของ จีน! ถึงแม้ว่าชื่อของมันจะเป็นมงคล ที่แปลว่า “เทพยดาทั้ง 8 องค์” แต่ในอีกทางหนึ่ง โป๊ยเซียนนั้น เป็นพืชที่มีพิษชนิด “resin” และ “diterpene ester” น้ำยางของมันถ้าถูกผิวหนังหรือเข้าตา จะทำให้เกิดระคายเคือง แสบ บวม แดง และถ้ารับประทาน จะทำให้ทางเดินอาหารอักเสบได้ ใครคิดจะปลูกในบริเวณบ้านก็ระวังให้ดี

ดอกเบญจมาศ

ดอกเบญจมาศสีชมพุ

ถึงแม้ว่า “ดอกเบญจมาศ” (CHRYSANTHEMUM) จะมีชื่อนางเอ๊กนางเอก… แต่รู้ไหมว่าเป็นหนึ่งใน พืชมีพิษร้ายแรงในไทย ซึ่งมีสายพันธุ์มากถึง 200 ชนิดทีเดียว บางสายพันธุ์มีคุณสมบัติในการดูดสารพิษต่าง ๆ อย่างเช่น ฟอร์มาดีไฮด์ เบนซีน และแอมโมเนียได้ แต่บางสายพันธุ์ก็เป็นอันตรายอย่างมากต่อมนุษย์ ถ้าสัมผัสดอกเบญจมาศที่มีพิษเพียงครั้งเดียว จะทำให้ผิวหนังของเราเกิดการไหม้ได้!

ดอกชวนชม

ดอกไม้ดอกชวนชม

ดอกไม้มีพิษ ในไทย ที่เราไม่ควรมองข้ามเลย ก็คือ “ดอกชวนชม” (Adenium) เจ้าดอกไม้ชนิดนี้แม้ชื่อจะชวนให้ชม แต่ถ้าเผลอสัมผัสเพียงแค่ยางของมัน ก็ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นอักเสบได้แล้ว และถ้าเด็ก ๆ เผลอเด็ดเข้าปากแล้วล่ะก็ พิษของมันจะส่งผลให้ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่า และทำให้หัวใจเต้นอ่อน ความดันลดลงจนเสียชีวิตได้ในที่สุด ไม่ควรนำมาปลูกไว้ในบ้าน ให้ใครชื่นชมโดยเด็ดขาด!

ดอกเพชฌฆาตสีทอง

ดอกเพชฌฆาตสีทอง

พืชมีพิษร้ายแรงในไทย อีกชนิดหนึ่งที่ห้ามปลูกในบ้าน ก็คือ “ดอกเพชฌฆาตสีทอง” (Gelsemium) เจ้าดอกไม้ชนิดนี้แค่ได้ยินชื่อก็บอกแล้วว่า มันเป็นหนึ่งในเพชฌฆาตที่จะมาฆ่าชีวิตเราได้ ทุกส่วนของต้นให้น้ำยางที่เป็นพิษ ได้แก่ Gelsemine, Gelsemicine, Koumine, Kouminine, Kouminicine และ Kumatenidine alkaloids ซึ่งถ้าเผลอกินเข้าไป จะทำให้เกิดอาการมึนงง สับสน หลั่งน้ำลายมาก และร้ายแรงถึงขั้นทำให้สั่นชัก และหยุดหายใจได้ในที่สุด

ดอกกุหลาบพันปี

ดอกกุหลาบพันปีสีแดง

อีกหนึ่ง ดอกไม้มีพิษ ที่ต้องระวังให้ดีเลยก็คือ “ดอกกุหลาบพันปี” (RHODODENDRON) เจ้าบุปผาชนิดนี้มีรูปทรงคล้ายกระดิ่ง มีมอสเกาะที่ลำต้นคล้ายกับ “พืชที่มีอายุยาวนานนับพันปี” และทราบไหมว่าภายใต้ผิวพรรณของมันนี้ ซ่อนพิษรุนแรงที่สามารถทำให้เสียชีวิตได้ อยู่ในใบ กลีบดอก และเกสร หากได้รับพิษเข้าไป จะทำให้ริมฝีปาก ลำไส้ กระเพาะอาหารไหม้ รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน แพ้อย่างรุนแรงจนถึงขั้นช็อกตาย

ดอกยี่โถ

ดอกยี่โถ ดอกไม้ห้ามเข้าใกล้

ถ้าหากจะปลูก “ดอกยี่โถ” (OLEANDER / NERIUM OLEANDER) เพื่อความสวยงามในบ้าน ให้ระวังให้ดี! ดอกไม้ชนิดนี้เป็น ดอกไม้ที่กินไม่ได้ ห้ามเด็กเข้าใกล้! ทุกส่วนของยี่โถมีพิษหมด ไม่ว่าจะเป็นดอกผลหรือแม้แต่เมล็ด ก็ล้วนมีพิษ “Cardiac Glycosides” ถ้าหากสัมผัสจะทำให้ผิวหนังอักเสบคัน และถ้าหากรับประทานก็จะทำให้เราคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง หายใจหอบ ทำให้เกิดอาการหัวใจหยุดเต้นจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ในที่สุด

ดอกฮิกันบานะ

ดอกฮิกันบานะ ดอกเข็มพิษ

ถ้าพูดถึง ดอกไม้มีพิษญี่ปุ่น ก็คงจะต้องนึกถึงเจ้า “ดอกฮิกันบานะ” (Red Spider Lily) ดอกไม้ชนิดนี้มีลักษณะคล้ายดอกเข็มบ้านเรา แต่เป็นเข็มพิษนะ กล่าวกันว่าในอดีตคนญี่ปุ่นขาดแคลน จึงมักจะนำเจ้านี่มากิน เพราะส่วนหัวของมันอุดมไปด้วยแป้ง แต่ทราบไหมว่าถ้าเราล้างไม่สะอาดดี พิษที่หลงเหลือของมัน สามารถทำให้เราท้องเสีย อาเจียน เส้นประสาทเป็นอัมพาต และอาจเสียชีวิตได้ ดอกไม้ชนิดนี้จึงถูกเรียกกันอีกชื่อว่า “ดอกไม้นรก” หรือ “จิโกคุบานะ (地獄花)”

ดอกไม้นำโชคของคนญี่ปุ่นคือดอกอะไร?

สำหรับคนญี่ปุ่นเชื่อเรื่อง ต้นไม้มงคล ด้วยเช่นกัน โดยดอกไม้มงคลของบ้านเขามีด้วยกันหลายชนิด เช่น ดอกโรอุไบ, สึบากิ, สึบากิ, จิงโซเกะ ฯลฯ ส่วนดอกที่นิยมมากที่สุดและขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในญี่ปุ่นก็คือดอก “ซากุระ” ทุกคนคงคุ้นชื่อกันดี

คนญี่ปุ่นเชื่อเรื่องโชคลางมั้ย?

คนญี่ปุ่นเองก็เชื่อเรื่องโชคลางไม่ต่างจากคนไทย เนื่องจากเป็นประเทศในแถบเอเชียเหมือนกัน มีศาสนาพุทธเหมือนกันที่ต่างนิกาย จึงมีความเชื่อคล้ายกัน ทราบมั้ยว่า ญี่ปุ่นก็มีปีชง เหมือนกันด้วย โดยเชื่อเรื่องดวงซวยและต้องไหว้พระเพื่อแก้ปีชงเช่นเดียวกัน

เครื่องรางเสริมโชคของคนญี่ปุ่น คือ

เครื่องรางที่มักทำจากกระดาษหรือไม้ มักช่วยเสริมดวงโชคลาภเงินทอง เช่น “โอะมาโมริ” เป็นเครื่องรางที่เป็นถุง ๆ เล็ก ๆ มีสีสันหลากหลาย สามารถพกติดตัวได้ โดยเชื่อกันว่าแต่ละสีก็มีความหมายและช่วยเยียวยารักษา หรือเสริมดวงในด้านที่แตกต่างกัน

ดอกวอเตอร์ เฮมล็อก

ดอกวอเตอร์เฮมล็อก ดอกไม้มีพิษ

หากถามถึง ดอกไม้มีพิษของยุโรป ฝรั่งจะต้องนึกถึงเจ้า “ดอกวอเตอร์ เฮมล็อก” (WATER HEMLOCK) เป็นชนิดแรก! ภายใต้ความสวยงามของมันนั้น ซ่อนพิษที่ออกฤทธิ์รุนแรง ภายใน 15 นาที ก็ทำให้ตายได้ เพราะทุกส่วนของมันมีสารพิษจำพวก “ซิคูท็อกซิน” (cicutoxin) ถ้าหากเผลอกินเข้าไป จะทำให้เกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน อุณหภูมิร่างกายลดลง สมองบวม หัวใจเต้นผิดปกติ ชักอย่างรุนแรง และการหายใจล้มเหลวในที่สุด

ดอกวิสเทอร์เรีย

ดอกวิสเทอร์เรียเป็นแถว

ขอเตือนว่าห้ามนำเจ้า “ดอกวิสเทอร์เรีย” (WISTERIA) ไปปลูกที่บ้านเด็ดขาด เพราะมันเป็น ดอกไม้มีพิษ ชนิดรุนแรงมาก! เพียงแค่สัมผัสที่ดอกอาจตายได้ภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง พิษของมันเทียบเท่ากับงูทะเลทรายเลยทีเดียว ส่วนใครที่เผลอกินมันเข้าไป จะทำให้เกิดอาการท้องร่วง ท้องเสีย เป็นไข้ วิงเวียนศีรษะ และอาเจียน ถ้าเข้ารับการรักษาไม่ทันก็อาจช็อกจนเสียชีวิตได้ ถึงแม้ว่าดอกไม้ชนิดนี้จะมีความหมายว่า “การมีอายุยืนยาว” และมีกลิ่นหอมเย้ายวนใจ แต่ทุกส่วนของวิสเทอร์เรีย ตั้งแต่ลำต้นจรดยอดอ่อน ล้วนมีสารพิษที่ทำลายระบบการทำงานของร่างกายเราทั้งสิ้น

ดอกลิลลี่แห่งหุบเขา

ดอกลิลลี่หุบเขา

ถึงชื่อจะงาม นามจะเพราะ แต่เจ้า “ดอกลิลลี่แห่งหุบเขา” (LILY-OF-THE-VALLEY) นี้ มีพิษที่ทำให้เสียชีวิตได้ ถ้าเห็นภายนอกคุณจะคิดว่ามันเป็นดอกไม้ที่น่ารักน่าเด็ดชม แต่ภายในกลับแฝงพิษร้าย “Convallatoxin” เอาไว้ในทุกส่วน โดยเฉพาะในส่วนของผลเบอร์รี่ มีสารซาโปนินเข้มข้นอย่างมาก ถ้าหากเผลอทานเข้าไปเพียงครั้งเดียว ต้องรีบไปล้างท้องโดยด่วน เพราะพิษของมันจะทำให้เกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ความดันโลหิตต่ำ หัวใจบีบตัว และรุนแรงถึงขั้นทำให้หัวใจหยุดเต้นได้

ดอกถุงมือจิ้งจอก

ดอกถุงมือจิ้งจอกหลากสี

ใครนำ “ดอกถุงมือจิ้งจอก” (FOXGLOVE) มาปลูกไว้ในบ้านระวังให้ดี เพราะดอกไม้ชนิดนี้เป็น ราชินีดอกไม้พิษ ภายนอกดูน่ารักสีสันสดใส แต่ภายในกลับซ่อนพิษร้ายอย่าง “Digitoxin” ไว้ในทุกส่วนของต้น หรือแม้แต่ในเมล็ดของมัน ถ้าใครเผลอทานเข้าไปจะทำให้ ปวดหัว อาเจียน ตาพร่า ปากไหม้ หายใจหอบ เพ้อ ชัก หมดสติ หรือรุนแรงถึงขั้นหัวใจหยุดเต้น ว่ากันว่า พิษของดอกถุงมือจิ้งจอกมีความเข้มข้นมาก ถึงแม้ว่าจะนำไปบดแห้งหรือทำให้สุกก็ไม่อาจลบล้างพิษลงได้เลย แต่ก็น่าแปลกที่ เจ้าดอกไม้ชนิดนี้ ถูกนำมารักษาโรคหัวใจผิดจังหวะได้ แต่ต้องอยู่ในปริมาณที่แพทย์กำหนดเท่านั้น

ดอกไฮเดรนเยีย

ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย

ดอกไม้ชนิดสุดท้าย ที่ห้ามปลูกเด็ดขาดเลย ก็คือ “ดอกไฮเดรนเยีย” (HYDRANGEA) เพราะว่าเป็น พืชที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก ทุกส่วนของมันไม่ว่าจะเป็นใบ ดอก หรือแม้แต่ราก ล้วนมีส่วนผสมของสารพิษประเภท “Cyanogenetic Glycosides” ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในยาพิษชื่อดัง “ไซยาไนด์” (Cyanide) เป็นยังไงล่ะ ได้ยินแค่นี้ก็อึ้งกันแล้วสินะ ถ้าหมาแมวหรือมนุษย์เผลอกินเจ้าดอกไม้ชนิดนี้เข้าไป จะทำให้เกิดอาการเนื้อตัวเย็นเฉียบ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ยไม่มีแรง บางรายที่อาการหนักมากก็จะชักเกร็ง ช็อก และเสียชีวิตได้!

สรุปส่งท้าย

ทราบแล้วใช่ไหมว่า ดอกไม้มีพิษ ทั้ง 13 สายพันธุ์ มีอะไรบ้าง ถ้าคิดจะนำมาปลูกในบริเวณบ้านระวังให้ดีนะ! บางพันธุ์อาจแค่ทำให้คุณปวดแสบปวดร้อนเมื่อสัมผัส เช่น ดอกโป๊ยเซียน และ ดอกเบญจมาศ แต่หลายสายพันธุ์ก็มีฤทธิ์เป็นยาพิษ ที่ทำให้คุณถึงตายได้เมื่อเผลอกินเข้าไป เช่น ดอกฮิกันบานะ หรือ ดอกไฮเดรนเยีย

ทว่า “ดอกไม้มีพิษ” เหล่านี้ จะไม่มีพิษมีภัยกับคุณเลย หากแค่เชยชมมันอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น ของบางอย่างดูด้วยตาอย่างเดียวดีที่สุด อย่าได้ไปสัมผัสหรือเย้าหยอกเล่น ๆ เช่นเดียวกับ “สตรี”… และสุดท้ายนี้ ใครที่อยากอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับต้นไม้ ดอกไม้ที่ช่วยเสริมสิริมงคลให้บ้าน สามารถอ่านได้จากบทความข้างล่างนี้เลย!

ขอบคุณภาพบางส่วนจาก hkm1.hrdi

บทความแนะนำ

Facebook
Twitter
Email