ชั่วโมงนี้ วัดตะเคียน ต้องมาแล้วววว! ใช่ไหมละทุกคน? จะไม่ให้อินเทรนด์ พูดถึงได้อย่างไร ก็ในเมื่อใครๆ เขาก็ถามถึงแต่วัดนี้กันทั้งนั้น วัดตะเคียนดีอย่างโน้นดีอย่างนี้ เคยสงสัยไหมละทำไม? ทำไมได้ยินชื่อนี้บ่อยจัง และวัดแห่งนี้มีอะไรดีผู้คนถึงสนใจอยากไปวัดแห่งนี้กัน มาทางนี้ทางทีมงาน Ruay365 จะพาไปรู้จักกัน
วัดตะเคียน เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งใน จังหวัดนนทบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอบางกรวย มีอายุนับร้อยปี คาดว่าสร้างมาก่อนสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาวัดแห่งนี้ก็มีภิกษุมาจำพรรษาบ้างร้างบ้างสลับกันไป จนมาถึงสมัย “หลวงปู่แย้ม ปิยวณฺโณ” มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส จึงได้พัฒนาวัดให้เจริญเรื่อยมาจนทุกวันนี้
ซึ่งสาเหตุที่คนนิยมไปวัดแห่งนี้ ก็เพราะต้องการไปสักการะสรีระหลวงปู่แย้ม เกจิอาจารย์ชื่อดัง ต้นตำรับ ตะกรุดคอหมา อีกทั้งยังเป็นการไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด เพื่อขอโชคลาภ หลังจากมีผู้คนไม่น้อยที่รับโชคจากเดินทางมาวัดแห่งนี้
สารบัญ
Toggleเคล็ดไม่ลับ ขั้นตอนได้ลาภจากการไป วัดตะเคียน
จุดเด่นของวัดตะเคียน นอกจากวัดจะสวยงาม และความดังในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ที่นี่เขายังมีตลาดน้ำให้ได้เดินชม เดินหาของกินกันด้วย เรียกว่ามาที่เดียวคุ้มเกินคุ้ม อย่างที่บอกคนส่วนใหญ่ที่เดินทางมาที่นี่ นอกเหนือจากการเดินเที่ยวชมตลาดน้ำแล้ว การสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และทำบุญล้างเคราะห์ ต่อชะตา เพื่อสร้างบารมี เสริมดวงให้กับตัวเอง ก็ถือเป็นจุดประสงค์หลักของการมาที่วัดแห่งนี้เช่นกัน โดยสิ่งที่ผู้เลือมใสศรัทธา มักจะทำเพื่อให้ได้โชคลาภ เสริมบารมี ได้แก่
เข้าสักการะพระพุทธรูป ในพระอุโบสถ วัดตะเคียน
แน่นอนเมื่อไปยังวัดใด สิ่งแรกเลยก็คือการกราบสักการะพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภายในอุโบสถ เพื่อจะได้บอกกล่าวและเข้าขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล อีกทั้งยังเป็นบันทึกแห่งความทรงจำว่า ครึ่งหนึ่งเราเคยมาที่นี่แล้ว ซึ่งภายในอุโบสถทั้งหลังเก่า และหลังใหม่ในวัดตะเคียนนี้ มีพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยอยุธยาที่หาชมได้ยากมากประดิษฐานอยู่
โดยเฉพาะ หลวงพ่อพุทธโคดม และ หลวงพ่อธรรมจักร พระยืนประดิษฐานอยู่ในวิหาร โดยชาวบ้านเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากจึงนิยมมาขอพรต่างๆ ขณะเดียวกัน ยังมี หลวงพ่อโต เป็นพระเก่าแก่ ซึ่งประดิษฐานอยู่ด้านนอกวัด สมัยก่อนนิยมมาบนบานสานกล่าวกันด้วยการแก้ผ้ากระโดดน้ำลงคลองด้านหน้าวัด และต้นตะเคียน ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ มีความเก่าแก่อายุนับร้อยปีที่เหลืออยู่เพียงต้นเดียว ดังนั้นการมาวัดตะเคียนจึงไม่ควรพลาดที่จะเข้าไปชมให้เห็นเป็นบุญตาสักครั้ง
ลอดโบสถ์ หัวเสือ หัวมังกร วัดตะเคียน ให้พบเจอสิ่งดีๆ
เสร็จจากการสักการะพระพุทธรูป และพระประธานภายในโบสถ์แล้ว กิจกรรมถัดมาของการไปวัดตะเคียน คือ การลอดโบสถ์ เพราะวัดตะเคียนเป็นอีกวัดที่จัดพิธีนี้ไว้ให้ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาได้ปฏิบัติเมื่อมาถึง เนื่องจากตามความเชื่อ เชื่อว่า หากลอดโบสถ์ จะพ้นจากภยันตราย ปราศจากสิ่งอัปมงคลทั้งปวง ล้างสิ่งอัปมงคล ถอนคุณไสย์ มนต์ดำได้
เพราะโบสถ์มีความศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากเป็นสถานที่ใช้ประกอบกิจทางศาสนา เป็นสถานที่แห่งแรกที่ทำให้บุคคลธรรมดาให้กลายเป็นอริยสงฆ์ กลายเป็นพระเกจิ และการบวชพระแต่ละครั้ง มีการทำพิธีศักดิ์สิทธิ์ มีสวดปาติโมกข์ล้วนแล้วเป็นมงคล
โดยวิธีการลอดโบสถ์ของวัดตะเคียนนั้น เมื่อไปถึงวัดก็สามารถลงไปลอดได้เลย โดยไม่ต้องซื้อดอกไม้และธูปเทียนไป ส่วนใครจะเตรียมไปเพื่อไหว้พระ ทางวัดไม่ได้กำหนดกฎเกณฑ์ แต่ให้ปฏิบัติเพียงเข้าทางหัวเสือ และออกทางหัวมังกร โดยมีความเชื่อตามหลักฮวงจุ้ยว่า เข้าทางหัวเสือ คือความชั่วร้ายทั้งปวงให้ขจัดปัดเป่าทิ้งไป ส่วนทางออกมังกรเป็นสัตว์ชั้นสูงตามความเชื่อจีนทำให้จิตใจบริสุทธิ์มีแต่สิ่งดีงามจากนั้น
จากนั้นก่อนจะลอดโบสถ์ให้ตั้ง นะโม 3 จบ และตั้งจิตอธิษฐานว่า “ข้าพเจ้าลอดโบสถ์ ทุกข์โทษนานาติดเนื้อหนังมังสา กรรมปัจจุบันให้พลันสวาหาย” และระหว่างเดินลอดโบสถ์ 3 รอบนั้น มีคำอธิษฐาน 9 อย่าง ซึ่งวัดได้จัดพิมพ์ไว้ให้ใช้อธิษฐาน ได้แก่
1.ข้าพเจ้า ชื่อ…อวมงคลติดเนื้อหนังมังสาแต่ใดมา ให้หลุดสวาหาย
2.ข้าพเจ้าต้องรณีสาร อุบาทว์ 8 ประการตามโบราณว่าไว้ แต่ใดมา ให้หลุดสวาหาย
3.ข้าพเจ้าต้องน้ำมันผีพราย ติดเนื้อหนังมังสาแต่ใดมา ให้หลุดสวาหาย
4.ข้าพเจ้าต้องเดรัชฉาน เสน่ห์ยา ติดเนื้อหนังมังสาแต่ใดมา ให้หลุดสวาหาย
5.ข้าพเจ้าต้องคุณ 12 ภาษา ติดเนื้อหนังมังสาแต่ใดมา ให้หลุดสวาหาย
6.ข้าพเจ้าต้องมนต์ดำ มนต์แดง ติดเนื้อหนังมังสาแต่ใดมา ให้หลุดสวาหาย
7.ข้าพเจ้าต้องโรคพยาธิ เกิดโรคภัยไข้เจ็บรักษามิได้สร่างชา ให้หลุดสวาหาย
8.ข้าพเจ้าต้องโรคกรรม โรคเวร ปัจจุบันโรคกรรมพลันสวาหาย โสธายะ
และ 9.ข้าพเจ้าปิดทองลอดโบสถ์ครั้งนี้ จงหนุนวาสนา หนุนบารมี ให้มั่งมีศรีสุข สิ่งที่ปรารถนาจงสำเร็จด้วยเทอญ
กราบสรีระ หลวงปู่แย้ม เจ้าอาวาสวัดตะเคียน
วัดตะเคียน มีชื่อเสียง และเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวไทย ส่วนหนึ่งมาจาก หลวงปู่แย้ม เพราะท่านทำให้วัดที่รายล้อมด้วยสวนส้มเขียวหวานเกือบทั้งหมดมาเป็นที่รู้จักของคนส่วนใหญ่ได้ด้วยจิตอันมีเมตตา จากการที่ท่านชอบช่วยสงเคราะห์ผู้คนทั้งทางด้านจิตใจ และด้านวัตถุ อาทิ การสร้างสร้างอาชีพให้คนในพื้นที่ด้วยการฟื้นฟูตลาดน้ำขึ้นรอบๆ วัด เพื่อยังคงวิถีชีวิตคนริมน้ำ และการปลุกเสกของขลัง ช่วยหนุนในด้านเมตตามหานิยม จนทำให้วัดแหน่งนี้กลายเป็นที่รู้จัก การเข้าสักการะสรีระของท่านที่ตั้งอยู่ในวัดก็นับว่าเป็นมงคลยิ่งในชีวิต
สำหรับประวัติ หลวงปู่แย้ม มีชื่อและสกุลเดิมคือ “แย้ม ปราณี” เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม 2458 ที่ ต.เจ็ดริ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร บิดาชื่อ “เพิ่ม” มารดาชื่อ “เจิม” เมื่อท่านอายุครบ 20 ปี ก็เข้าพิธีอุปสมบทตามประเพณี และเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้มารดาที่ล่วงลับ ที่ วัดหลักสองบำรุงราษฎร์
มีพระครูคณาสุนทรนุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอบ้านแพ้ว เป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการเหลือ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ชื่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ปิยวณฺโณ” เมื่อเข้าพรรษาที่ 2 หลวงปู่เกิดอาพาธหนัก ต้องกลับไปรักษาตัวที่บ้านด้วยยาต้มแผนโบราณ หายดีแล้วจึงกลับไปอยู่วัดตามเดิม
ด้วยความที่เห็นว่า ยาต้ม สามารถช่วยรักษาคนได้ หลวงปู่ก็ได้ร่ำเรียนศึกษา วิชาแพทย์แผนโบราณจนแตกฉาน จนสามารถนำความรู้มาช่วยรักษาชาวบ้านได้ เท่านั้นยังไม่พอ ท่านเห็นว่าการเรียนรู้ คือการยกระดับชีวิตและช่วยเหลือผู้อื่นได้ หลวงปู่แย้ม จึงได้ไปร่ำเรียนเรียนวิชาทำตะกรุด จากหลวงพ่อสาย วัดหนองสองห้อง จ.สมุทรสาคร เพื่อเอาไว้ป้องกัน และรักษาตัวจากภยันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น และด้วยศาสตร์นี้เองยิ่งทำให้หลวงปู่เป็นที่รู้จักมากขึ้นอีก อันเป็นที่มาว่า “ปู่แย้ม ตะกรุดคอหมา”
สมญานาม “ปู่แย้ม ตะกรุดคอหมา” ที่ชาวบ้านเรียกขานไม่ได้มีไว้เรียกเฉยๆ เท่ๆ แต่มีเรื่องเล่าว่า ด้วยความที่ท่านมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย สมัยก่อนท่านได้เลี้ยงสุนัขไว้หลายตัว จนทำให้หมาของท่านไปก่อกวนทำความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านที่ไม่ชอบหมา พากันทุบตี จนหมาของท่านได้รับบาดเจ็บ
ครั้นจะไปห้ามปรามชาวบ้านไม่ให้ทำร้ายมันก็ไม่ใช่ เพื่อไม่ให้เป็นเวรกรรมต่อกัน หลวงปู่แย้ม จึงได้ปลุกเสกตะกรุดก่อนจะนำไปติดที่คอหมาของท่านทุกตัว ซึ่งท่านได้กล่าวว่า เครื่องรางของขลังยังทำให้คนได้ ทำให้หมาบ้างก็น่าจะดีอยู่เหมือนกัน จากนั้นก็ทำพิธีจารตะกรุดในน้ำ ด้วยสมาธิจิตอันแน่วแน่ เมื่อทำเสร็จแล้วจึงนำไปผูกคอหมาที่ท่านเลี้ยงไว้จนครบทุกตัว
หลังจากที่หลวงปู่คล้องตะกรุดที่คอทุกตัว ยังปรากฏมีชาวบ้านที่ชอบทำร้ายหมาอยู่ มีอยู่วันหนึ่งมีชาวบ้านไม่ชอบหมาของท่านนำปืนมายิงหมา แต่ปรากฏว่าปืนแตก สร้างความตื่นตกใจให้กับชาวบ้านคนดังกล่าวเป็นอย่างมาก ก่อนที่ข่าวดังกล่าวจะขจรไกลไป ผู้คนจำนวนมากจึงเดินทางมาขอตะกรุดกับหลวงปู่กันอย่างหนาแน่น เพราะเชื่อว่าอยู่ยงคงกระพัน คล้องไว้แล้วจะแคล้วคลาดเหมือนกับหมาตัวนั้นนั่นเอง ถึงขั้นบางคนไปแย่งเอาตะกรุดที่คอหมาก็มี จนเป็นที่มาของการกล่าวขานนามท่านว่า “ปู่แย้ม ตะกรุดคอหมา”
หลวงปู่แย้ม ใช่ว่าจะมี ตะกรุดคอหมา เท่านั้นที่วัตถุมงคลอันขึ้นชื่อ แต่ยังมีหลายอย่างเช่น พระขุนแผนยอดขุนพล ,พระนางพญา, พระขุนแผนใบบัว, เสือปืนแตก และตะกรุดคลองตะเคียน โดยท่านได้จารยันต์ คาถาพระเจ้า 5 พระองค์ หรือเรียกว่า “แม่ธาตุใหญ่” ซึ่งมีพุทธคุณเหนือยันต์ทั้งปวงลงในตะกรุด ยังมียันต์อีกตัวหนึ่ง ซึ่งอาจจะเรียกว่า เป็นยันต์เฉพาะตัวของหลวงปู่แย้ม คือ “ยันต์มหาเบา” เป็นตำราจาก หลวงพ่อสาย วัดหนองสองห้อง กับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
ศาลเจ้าแม่ประกายทองประกายมาศ
ศาลเจ้าแม่ประกายทองประกายมาศ เป็นอีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดตะเคียน โดยความศักดิ์สิทธิ์ของที่นี้ขึ้นชื่อในเรื่องของการให้โชคให้ลาภ เพราะมีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยถูกรางวัล หลังจากมาขอหวยแล้วบนด้วยเครื่องแต่งกายชุดไทย ณ ศาลเจ้าแม่ประกายทองประกายมาศแห่งนี้ ทำให้จุดนี้เป็นจุดที่ผู้คนแวะเวียนมาสักการะไม่ขาดสายเช่นกัน
การทำพิธีถวายสังฆทาน นอนโลง ต่อชะตา
วัดตะเคียน เป็นอีกวัดที่ได้จัดพิธีนอนโลง สะเดาะห์เคราะห์ต่อชะตา ตามความเชื่อที่ว่า ผู้ที่สะเดาะเคราะห์นอนในโลงจะหมดเคราะห์หมดโศกทั้งหลายทั้งปวง ได้ชีวิตใหม่ มีสุขภาพแข็งแรง ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข และเสริมมงคลชีวิต อีกทั้งยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงสัจธรรมของชีวิตที่ต้องมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย จึงควรดำเนินชีวิตอย่างมีสติ
พิธีการนอนโลงศพสะเดาะเคราะห์ของวัดตะเคียน จะใช้เวลาแต่ละครั้งประมาณ 5 นาที โดยพระสงฆ์ที่นิมนต์มาจำนวน 4 รูป จะสวดบังสุกุลตายให้ผู้ที่นอนในโลงศพ จะหันหัวไปทิศตะวันตก และกลับหัวมาทิศตะวันออก พระจะสวดบังสุกุลเป็น พร้อมให้ศีล ให้พร โดยทางวัดได้นำโลงศพใบเก่าไปทำพิธีฌาปนกิจตามประเพณี เพื่อให้สิ่งชั่วร้าย และสิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง ให้มอดไหม้ไปกับกองไฟ จากนั้นเปลี่ยนโลงศพใบใหม่มาใช้ทำพิธีให้ญาติโยมตลอดปี
อย่างไรก็ตามจุดประสงค์ของการจัดพิธีนอนโลงนั้น ทางวัดระบุว่า ไม่ใช่เพียงเพื่อการสะเดาะเคราะห์อย่างเดียว แต่หากยังต้องการสื่อให้ทุกคนรู้ถึงสัจธรรมความจริงว่า ที่สุดแล้วทุกคนย่อมหนีไม่พ้นความตาย อีกทั้งการทำพิธีนี้เปรียบเสมือนการฝึกตายก่อนตายจริง ที่สำคัญ ไม่มีการกำหนดราคาค่าทำพิธีแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีจุดให้ทำบุญถวายสังคทานด้วยเช่นกัน
นอกจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างแล้ว ในบริเวณวัดยังมีรูปปั้นต่างๆ ทั้งพระอภัยมณี สินสมุทร ผีเสื้อสมุทร ไซอิ๋ว ตือป๊วยไก่ รูปนางยักษ์คีบลูกชิ้นจากชามก๋วยเตี๋ยว ซึ่งเป็นหุ่นปั้นตามวรรณคดีที่มีการประยุกต์ให้เข้าสังคมในปัจจุบันด้วย นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นที่สอนในเรื่องอบายมุขต่างๆ ด้วย ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่แปลกกว่าวัดอื่นๆ เลยทีเดียว
วัดตะเคียน ตั้งอยู่ : วัดตะเคียน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี สามารถเดินทางจากแยกแคราย จ.นนทบุรี วิ่งตรงข้ามสะพานพระราม 5 จากนั้นวิ่งตรงไปตาม ถ.นครอินทร์ จนถึง ถ.กาญจนาภิเษก ให้ชิดซ้ายกลับรถใต้สะพานข้ามแยก(ที่จะไปเข้าเส้นตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี) แล้วมุ่งหน้าย้อนกลับมาทางเดิมประมาณ 1.30 ก.ม.
ก่อนถึงสะพานลอยคนข้าม จะเห็นซอยที่มีป้ายวัดตะเคียน ด้านหน้าซอยเป็นร้าน7/11 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปตามป้ายวัดตะเคียนอีกประมาณ 1.30 กม. เปิดทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น. หากผู้สนใจอยากจะไปลองเที่ยวชมสักครั้งสามารถติดต่อไปได้ที่ 0-2595-1851
สรุป
วัดตะเคียน เป็นวัดเก่าแก่ใน จ.นนทบุรี เป็นวัดที่เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา แต่ต้องการไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอโชค ขอลาภ เพราะวัดแห่งนี้เป็นศูนย์รวมตามความเชื่อต่างๆ ทั้งการลอดใต้โสถ์ การนอนในโลงสะเดาะห์เคราะห์แก้ดวงชะตา
อีกทั้งหลังเสร็จพิธีกรรมต่างๆ แล้ว ยังมีตลาดน้ำให้ช้อป ชิม ชม ไปในตัว ได้ทั้งบุญ ทั้งความสบายใจ และยังได้พักผ่อนสบายๆ อีกด้วย มาสัมผัสบรรยากาศตลาดน้ำแบบชิวๆ พร้อมทำบุญไหว้พระเสริมดวงให้กับตัวเองได้เลยที่นี่ ที่ วัดตะเคียน จังหวัดนนทบุรี
สำหรับใครที่อยากจะอ่านบทความดีๆ บทความเกี่ยวกับเลขเด็ด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดดัง เคล็ดลับการขอเลขเด็ดแม่นๆ แล้วล่ะก็ ต้องอย่ามาลืมมาติดตามบทความของพวกเราผ่านทาเว็บไซต์ Ruay365 ได้ในทุกวันเลยค่ะ