” ดอกนั้นก็ดี ดอกนี้ก็โดน โอยยย…ต้นนั้นก็สวย…แล้วจะเลือก ไม้มงคล ต้นไหนดอกไหนดีสำหรับบูชาองค์เทพ” คำถามนี้คงจะเกิดขึ้นกับใครหลาย ๆ คนแน่นอนที่ไม่รู้ว่าจะใช้ดอกไม้อันไหนดี เนื่องด้วยดอกไม้ ต้นไม้มีหลายชนิดให้เลือกจนปวดหัว

เนื่องด้วยเทพของทางฮินดูมีหลายองค์ที่คนไทยนิยมบูชา เพื่อความเป็นมงคลในเรื่องต่าง ๆ เช่น การงาน การเงิน ความรัก ดังนั้น บทบูชา และของไหว้ก็ต้องแตกต่างกันตามองค์เทพรวมถึงไม้มงคล ดอกไม้มงคลที่ใช้ในการไหว้ก็เช่นกัน

ปัญหาแบบนี้ของสายมูจะหมดไปไม้มงคล ดอกไม้มงคลที่ใช้ในการไหว้ เพราะไม้มงคลเหล่านี้แท้จริงแล้วสามารถปลูกได้เองและสร้างความร่มรื่นภายในบ้านได้ด้วย แต่จะมีไม้อะไรบ้างวันนี้ Ruay มีมาบอกกันค่ะ

มารู้จักองค์เทพกันก่อน

เทพฮินดูที่รู้จักและบูชากันจะมี อย่างเช่น พระพรหม พระศิวะ พระนารายณ์ พระพิฆเนศ พระแม่อุมา จะมีบทบูชา และของไหว้ต่างกันไปหนึ่งในของไหว้ที่แตกต่างกันตามองค์เทพ เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าแต่ละองค์นั้นสามารถขอพรอะไรกันได้บ้าง

พระพรหม

ตามตำราของพราหม และฮินดู ว่ากันว่า พระพรหม เป็นผู้สร้างโลก แล้วถ้าจะถามกันต่อไปอีกว่าพระพรหมเกิดขึ้นมาได้อย่างไร บางตำราก็ว่ากำเนิดของ พระพรหมเกิดจากดอกบัวที่พุดขึ้นจากสะดือของพระวิษณุ ที่บรรทมหลับอยู่บนหลังพระยาอนันตนาคราชที่เกษียรสมุทร

แต่ละพระพักต์ของพระพรหมนั้นประทานพรให้แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนไปขอพรจากท่าเราต้องรู้ก่อนว่าสามารถขอพรอะไรได้บ้าง รู้ก่อนขอพรถูกก็ได้สมหวังตามที่ขอแน่นอน การนับพระพักต์แรกของพระพรหมให้นับเวียนไปทางขวามือของเรา (ซ้ายมือของท่าน) เรียงตามลำดับดังนี้

• พระพักตร์ที่ 1 จะโดดเด่นในเรื่องของการงาน การเรียน การสอบ การเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง การขอพรเกี่ยวกับพ่อ
• พระพักตร์ที่ 2 จะเด่นในเรื่องของที่อยู่อาศัย อสังหาริมทรัพย์ บ้านที่ดิน คอนโด รถยนต์ รวมทั้งหนี้สินต่างๆ
• พระพักตร์ที่ 3 ให้ขอพรเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพ ชีวิตครอบครัว ความรัก สัญญา หุ้นส่วน
• พระพักตร์ที่ 4 จะเกี่ยวกับเรื่องโชคลาภ สิ่งที่จะได้มาโดยบังเอิญ สิ่งต่างๆ ขอออเดอร์สินค้าใหญ่ๆ หรือ แม้กระทั่งขอเรื่องบุตร

พระศิวะ

องค์เทพผู้เปี่ยมไปด้วยอำนาจ มีพระแม่อุมาเป็นมเหสีเอก และบุตรคือ พระพิฆเนศและพระขันธกุมาร ตามตำนานเล่าว่า พระองค์ถือกำเนิดจากพระเวทและพระธรรมช่วยกันเนรมิตขึ้นมาเพื่อสร้างโลกขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่โลกได้ละลายกลายเป็นอากาศมาช้านาน มีสัญลักษณ์ คือ “ดวงพระเนตรที่ 3 อยู่กลางหน้าผาก” ซึ่งโดยปกติจะปิดอยู่เสมอ แต่หากเปิดขึ้นเมื่อไหร่ ไฟบรรลัยกัลป์เป็นอันเผาผลาญล้างโลกจนหมดสิ้น หากคนใดที่บูชาท่านอย่างสม่ำเสมอจะได้รับพรทุกอย่างที่ต้องการจากองค์พระศิวะได้ตามที่ปรารถนา

พระนารายณ์

เทพผู้ปกป้องโลกและสวรรค์ให้พ้นจากภยันอันตรายทั้งปวง เป็นผู้ทรงเทวานุภาพในการกำจัดความชั่วร้ายทั้งหมด อสูรทุกตนต่างเกรงกลัวพระนารายณ์ นิยมขอพรให้ชีวิตมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข ประสบความสำเร็จในการศึกษาวิชาการต่างๆ จะทำการบูชาพระนารายณ์เพื่อแก้เคล็ด ลบล้างสิ่งชั่วร้าย และเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล โดยจะต้องจัดทำพิธีบูชาภายใน 10 วัน นับจากวันที่เกิดเหตุ

พระแม่อุมาเทวี

พระแม่อุมาเป็นมเหสีเอกของพระศิวะ และมีบุตรคือ พระพิฆเนศและพระขันธกุมาร เป็นพระแม่ผู้ยิ่งใหญ่มีอำนาจและบารมีอันมากมาย คนใดที่หมั่นบูชาอย่างสม่ำเสมอ พระแม่จะประทานพรทานกำลังวังชาแห่งความเป็นหญิง ประทานชัยชนะเหนือผู้ร้าย ทำลายสิ่งชั่วช้าเลวทราม

อีกทั้งยังช่วยประทานบริวารมากมายและอำนาจในการปกครองได้ด้วย สำหรับผู้ครองเรือน พระองค์ทรงประทานพรด้านความสมบูรณ์ หรือความผาสุขในการครองเรือน ทำให้ครอบครัวเปี่ยมสุข และปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง

พระแม่ลักษมี

เป็นองค์เทพแห่งความรัก เป็นพระชายาที่ซื่อสัตย์และเป็นที่รักยิ่งของพระนารายณ์ ทำให้ผู้คนต่างศรัทธาและมาสักการะขอพรกันในเรื่องความรัก ขอให้สมหวัง ขอให้คนรัก รักและซื่อสัตย์กับเราแต่เพียงคนเดียว

นอกจากนี้ท่านยังประทานพร ประทานความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการประกอบกิจการ การค้า การทำธุรกิจต่างๆ การเจรจาต่อรอง ตลอดจนทรัพย์สินเงินทองและความมั่งคั่งให้กับผู้ที่ตั้งใจหมั่นสักการะบูชาท่านอย่างสม่ำเสมอ

ไม้มงคล ดอกไม้มงคลที่ใช้ในการไหว้

ทำความรู้จักองค์เทพบางพระองค์แบบคร่าว ๆ กันไปแล้ว มาถึงคำตอบสำคัญกันจริง ๆ แล้วว่า เราจะใช้ดอกไม้มงคล หรือไม้มงคลอันไหนดีสำหรับไหว้บูชาองค์เทพ ก็มาดูคำตอบกันเลยใช้อะไรได้บ้าง

มะลิ : เป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่นิยมใช้ในการไหว้บูชาองค์เทพต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระนารายน์ ด้วยมีความเชื่อว่าดอกมะลิ เป็นดอกไม้ประจำของ “พระนารายณ์”

ดอกชบาแดง : เป็นดอกไม้ที่ พระแม่ทุรคา หรือพระแม่กาลี ทรงโปรดมากอีกหนึ่งอย่าง ทั้งนี้ยังเป็นดอกไม้ที่นำมาบูชาพระพิฆเนศได้อีกด้วย ตามความหมายของดอกชบาสีแดงคือ ความรุ่งโรจน์ รุ่งเรือง

ดอกบัวหลวง : เป็นดอกไม้สารพัดประโยชน์เลยทีเดียว เพราะดอกบัวนั้นเป็นดอกไม้ที่เกี่ยวข้องกับศาสนามาช้านานในตำนานที่เกี่ยวข้องกับศาสนาจะมีดอกบัวเข้าไปเกียวข้องอยู่เสมอ โดยดอกบัวหลวงนี้นิยมนำมาบูชาพระพรหม พระลักษมี และพระวิษณุ

กุหลาบแดง : เนื่องจากดอกกุหลายนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความรัก จึงนิยมใช้ในการบูชาพระตรีมูรติ นอกจากนี้ยังนำมาบูชาพระพิฆเนศ พระแม่อุมาเทวี พระนาราย์ พระวิษณุ พระแม่ลักษมี ได้อีกด้วย

ชงโค : เป็นไม้ยืนต้นที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ตามความเชื่อทางฮินดูเป็นไม้สวรรค์ที่อยู่ในเทวโลกเป็นไม้ดอกที่นิยมนำมาบูชาพระแม่ลักษมี พระชายาของพระนารายณ์ ถือได้ว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ควรเคารพบูชาและปลูกไว้ที่บ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคล

ดาวเรือง : เป็นดอกไม้อีกหนึ่งอย่างที่หลาย ๆ คนนำมาใช้ในการประกอบพิธีอันเป็นมงคล ซึ่งในการบูชาเทพทางฮินดูมักนิยมนำมาบูชาพระแม่อุมาเทวี และพระพิฆเนศ ในรูปแบบการร้อยเป็นมาลัย ดอกดาวเรืองยังมีความหมายสื่อได้ถึง ความรุ่งเรือง มีเงิน มีทอง

กล้วยไม้ : ตามความเชื่อของชาวอินเดียนับเป็นไม้ดอกที่ศักดิ์สิทธิ์ นั่นเป็นเพราะว่าสมัยก่อนกล้วยไม้นับเป็นดอกไม้ที่ออกดอกยาก จึงนับเป็นของล้ำค่าที่ควรคู่กับการไว้สำหรับบูชาองค์เทพ

ดอกมัม : ตามความเชื่อชาวอินเดียดอกมัมเป็นดอกไม้ที่ใช้ในการสื่อสารกับเทพเจ้าเนื่องจากดอกมัมเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นฉุนมีความเชื่อว่าดับกลิ่นมนุษย์ได้

ต้นมะตูม : ชาวฮินดูนิยมนำมาบูชา “พระศิวะ” เชื่อว่าต้นมะตูมเกิดจากการบันดาลของพระศิวะเอง มีอำนาจในการขับไล่ความชั่วร้าย และช่วยทำให้จิตใจสะอาดบริสุทธิ์ได้อีกด้วย

ต้นกระทุ่ม : เป็นไม้ยืนต้นในประเทศอินเดียถือว่าเป็นต้นไม้มงคลของ “พระกฤษณะ” เพราะเปลือกของต้นกระทุ่มมีสีดำเหมือนผิวของพระกฤษณะ คนไทยรู้จักต้นกระทุ่มมาตั้งแต่สมัยโบราณ พบได้ทุกภาคของประเทศ

หญ้าแพรก (ใบทุรวา) : หญ้าแพรก หรืออีกชื่อที่เรียกว่าใบทุรวาเป็นไม้ที่ใช้ในการบูชาพระพิฆเนศ มีความหมายมงคล หมายถึงการเจริญของสติปัญญาที่งอกงาม และแตกฉาน

ดอกลำโพง : เป็นดอกไม้ประจำตัวของ “พระศิวะ” ต้นลำโพงเป็นไม้มีพิษ เมล็ดลำโพงมีพิษสูงมาก หากรับประทานเข้าไปจะทำให้คอปากแห้ง สายตาพร่า เพ้อคลั่ง อาจจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ส่วนเหตุผลที่ใช้ดอกลำโพงถวายพระอิศวรนั้น คาดว่าพระอิศวรชอบอยู่ในป่าช้าผิดจากเทวดาอื่นๆ

สะเดา (ใบนีม) : นิยมที่จะนำมามัดเป็นมาลัยบูชา พระแม่มารีอัมมัน (หรืออีกปางหนึ่งของพระแม่ศรีมหาอุมาเทวี ) เป็นเทวีแห่งการรักษาโรค นอกเหนือจากนี้ยังนิยมนำใบสะเดามาบูชา พระแม่ทุรคา และกาลีอีกด้วย ตามความเชื่อของชาวอินเดีย ใบสะเดาเป็นพืชที่ใช้ในการปัดเป่าสิ่งไม่ดีอีกด้วย

ใบมะม่วง (มางไก) : ชาวอินเดียมีความเชื่อกันว่ามะม่วงมีต้นกำเนิดมาจากเขาไกลาศ ซึ่งใบมะม่วงยังใช้ในการขับไล่ไม่ให้สิ่งชั่วร้ายเข้าบ้าน ชาวอินเดียจึงนำใบมะม่วงมาแขวนไว้ที่หน้าบ้านอีกด้วย สีของใบมะม่วงเป็นสีแห่งความสมบูรณ์ซึ่งสัมพันธ์กับ พระพิคเนศวร และพระแม่ลักษมี

ใบพลู : ใบพลูนั้นมีรูปทรงของใบที่สวยงามเหมือนกับมือของผู้หญิง ตามความเชื่อของชาวฮินดูจึงนิยมนำใบพลูมาบูชาองค์เทวีเพื่อขอพรด้านความรัก โดยเฉพาะพระแม่ทุรคา พระแม่ลักษมี

ใบเล็บครุฑ : ตามความเชื่อใบเล็บครุฑจะใช้ในการปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป และตามความเชื่อของชาวฮินดูนิยมที่จะนำมาใช้เพื่อบูชาพระวิษณุเนื่องจากครุฑเป็นพาหนะของพระวิษณุนั่นเอง

มะนาว (เอมสิกา) : ความเชื่อของชาวฮินดูนิยมนำมะนาวมาบูชาเทพเพื่อขอพรให้ได้รับชัยชนะเหนือความกลัว มักใช้ในการบูชา พระแม่อุมา พระแม่ทุรคา เจ้าแม่กาลี

สรุป

ดอกไม้ และไม้มงคลสำหรับบูชาองค์มีหลากหลายด้วยกันซึ่งแต่ละชนิดจะมีความหมายที่แตกต่างกันอยู่ในตัว นอกจากนี้ไม้ดอกทั้งหลายนั้นสามารถนำมาปลูเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับบ้านของเราได้อีกด้วยนะ

ทีนี้ก็หมดปัญหาเรื่องนี้ของสายมูกันแล้ว สามารถเลือกดอกไม้ ต้นไม้มงคล มาบูชากันได้ ต้องการพรอย่างไรให้สมปรารถนาก็สามารถเลือกดอกไม้ ไม้มงคลนั้นมาบูชาไหว้สักการะกันได้เลย หรือจะใช้ทั้งหมดเลยก็ได้ โดยการสลับผลัดเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน แต่อย่าลืมเราต้องทำดีปฏิบัติดีปฏิบัติชอบกันด้วย เพราะไม่ว่าจะคน เทพเทวดาต่างก็ชอบคนดีทั้งนั้น…