สุดยอด สีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ เมตตามหาเสน่ห์ ไม่ต้องทาแค่พกก็สัมฤทธิ์ผล

“แก..แก…เห็นม่ะหล๊อ หล่ออ่ะ” เพื่อนสาวโสดสนิทสะกิดแม่โลมาให้ดูชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่ง แม่โลมาจึงได้ถามไปว่า “อยากมีแฟนแล้วสิท่า เคยได้ยินเรื่อง สีผึ้ง เขียวของหลวงพ่อทาบมั๊ย??”

นางรีบหันกลับมาควับ!! มองตาใสแล้วฟังอย่างตั้งใจกันเลยทีเดียว(คงจะอยากได้แฟนมากสิท่า..ฮ่าฮ่า) ม่ะ…ล้อมวงกันเข้ามาแม่โลมาสายมูจะมาเผยให้รู้กันถึงสุดยอดสีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบที่ได้ชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งในทำเนียบสีผึ้งเลยทีเดียว

สีผึ้งสีเขียวหลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง ที่แม่โลมาต้องขอบอกเลยว่ามีแต่คนยกย่องให้เป็นอันดับหนึ่งแผ่นดินในแดนสยาม เพราะมีประการณ์และเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ใจหลาย ๆ เหตุการณ์ที่ได้ใช้แล้วสัมฤทธิ์ผลตามที่ต้องการ

แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่ามาถึงปัจจุบันนี้จะหาได้ยากมาก ของปลอมก็เยอะอีกต่างหาก เอาเป็นว่าแม่โลมาจะพาทุกคนไปรู้จักกับสีผึ้งเขียวแบบเจาะลึก เมื่อรู้แล้วจะว่ายังไงต่อก็แล้วแต่ทุกท่านนะคะ

หลวงพ่อทาบ สีผึ้ง เขียวท่านคือใคร?

หลวงพ่อทาบ หรือพระครูอรรถโกศล ท่านเป็นคนระยองโดยกำเนิด เป็นบุตรของ โยมบิดา ชื่อ อุ่น เพชรนคร โยมมารดา ชื่อ ฉิม เกิดที่บ้านนาตาขวัญ ตำบลนาตาขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เมื่อวันศุกร์ เดือนหก ปีฉลู ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๒๐ อุปนิสัยเป็นคนใจบุญสุนทาน โอบอ้อมอารี และเป็นเด็กฉลาด

หลังจากปลดประจำการจากกเกณฑ์ทหารทานได้อุปสมบทที่วัดนาตาขวัญ โดยมีพระครูสมุทรสมานคุณ (แหยว) เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์มาก เจ้าอาวาสวัดนาตาขวัญเป็นพระกรรมวาจารย์ และพระอาจารย์รวม วัดบ้านแลง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ บวชได้แค่พรรษาเดียวท่านสามารถแปลมูลกัจจายน์มงคลทีป

นอกจากศึกษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดแล้วท่านยังได้ศึกษาวิทยาคมจากหลวงพ่อมากจนจบ จากนั้นได้ไปสึกษาต่อกับหลวงปู่แหยว(พระอุปัชฌาย์) เก่งทางด้านเมตตามหานิยม และยันต์พักโบก ที่วัดป่าประดู่

หลังจากที่หลวงพ่อทาบบวชเข้าพรรษาที่ 5 ท่านเริ่มออกเดินธุดงค์เพื่อหาควาสงบและแสวงหาพระอาจารย์ตามที่ต่าง ๆ ในปี พ.ศ. ๒๔๘๑ หลวงพ่อทาบ ได้รับแต่งตั้งได้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบล

และในปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ก็ได้รับสมณะศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่พระครูอรรถโกศล หลวงพ่อทาบ ได้มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๙ รวมอายุได้ ๘๙ ปี พรรษาที่ ๖๗

ที่มาของ สีผึ้ง เขียวหลวงพ่อทาบ

หลังจากที่หลวงพ่อทาบได้ศึกษาวิชาอาคมจากลวงพ่อมาก หลวงปู่แหยว และวิชาสีผึ้งจากครูภู่ คนอุบล จนหมดสิ้นแล้ว ในขณะที่ท่านได้ออกเดินธุดงค์ไปตามที่ต่าง ๆ ไปถึงเขมรและพม่าอยู่หลายปี ท่านได้ว่านยาตามสูตรทำสีผึ้งของหลวงปู่แหยวครูภู่ คนอุบล มาจนครบถ้วนมาคัดแยกตากแห้งและบดเพื่อทำสีผึ้งตามตำราโบราณที่โดดเด่นในด้าน เมตตามหานิยม

แต่ “สีผึ้งเขียว” ของหลวงพ่อทาบถือได้ว่าเป็นวิชาเฉพาะตัวของท่าน เพราะหลวงพ่อทาบได้ประยุกต์ด้วยการนำใบว่านชนิดหนึ่งมาผสมลงไปในระหว่างหุง ซึ่งเป็นจักรพรรดิ์แห่งว่านมีอานุภาพในด้านเมตตามหานิยมสูงกว่าว่านทุกชนิดด้วยเพราะว่านชนิดนี้นี่เองที่ทำให้เนื้อสีผึ้งเป็นสีเขียวมรกตต้องมีบุญวาสนาจริงๆ จึงจะได้พบ

กว่าจะเป็นสีผึ้งหลวงพ่อทาบต้องเจริญสมาธิภาวนาพระคาถาโดยร่างกายไม่ไหวติงอยู่เป็นเวลานานหลายชั่งโมงติดต่อกันจนครบตลอดไตรมาส หลวงพ่อทาบได้กล่าวไว้ว่า

“สีผึ้งที่สำเร็จตามตำราแล้ว ทุกครั้งที่ท่านภาวนาพระคาถากำกับตามกำลังวัน สีผึ้งจะต้องงอกเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลาไม่มีวันหมด”

ซึ่งมีผู้ที่ได้สีผึ้งเขียวจากหลวงพ่อและนำไปใช้ได้ผลอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้หลวงพ่อทาบมีชื่อเสียงโด่งดังในด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์มาจากสีผึ้งสีเขียวนี่แหละ

กว่าจะได้ สีผึ้ง ไม่ใช่ง่าย ๆ

แต่ในการที่จะได้สีผึ้งเขียวของหลวงพ่อนั้นไม่ใช่ง่าย ๆ ไม่ใช่ใครไปขอก็จะได้ทุกคนนะ..กว่าจะได้นั้นแสนจะลำบากยากเย็น เล่ากันว่าใครที่ต้องการสีผึ้งเขียวของท่านต้องไปนอนค้างคืนอยู่ที่วัดกันหลาย ๆ วัน หลาย ๆ คืน หลาย ๆ ครั้ง จนกว่าหลวงพ่อท่านจะเห็นถึงความมานะอดทนว่าต้องการจริง ๆ ท่านจึงจะให้สีผึ้งเขียว

เพราะใครที่ได้ไปนั้นถือว่าได้ของวิเศษที่เต็มไปด้วยเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ กันเลยทีเดียว แต่ก่อนที่หลวงพ่อทาบจะมอบสีผึ้งให้ใครท่านจะสอนวิธีใช้ก่อน “ถ้าจะใช้สีผึ้งนี่ก็ขอให้ใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ ได้เขาสมใจแล้วก็อย่าไปทิ้งไปขว้าง มิเช่นนั้น จะเกิดวิบัติ”

เรื่องเล่าของผู้ที่ใช้ สีผึ้ง เขียวหลวงพ่อทาบ

ประสบการณ์สำหรับท่านที่ได้สัมผัสถึงอานุภาพของสีผึ้งเขียวมาหลากหลายท่าน แม่โลมาจะขอยกตวอย่างสักสองสามท่านมาให้อิจฉาพอกรุบกริบนะจ๊ะ

นักเลงรุ่นเก๋าชาวระยอง

ท่านผู้เฒ่าท่านหนึ่งใน ต.ตาสิทธิ์ เมื่อสมัยหนุ่ม ๆ ไปติดใจชมชอบหญิงนางหนึ่งสวยอย่าบอกใครเชียว หนุ่ม ๆ มาจีบกันหัวกระไดแทบไม่แห้ง แต่ท่านพูดจาไม่เก่ง รูปก็ไม่หล่อ แรกๆ แม่นางไม่สนใจไม่มองเลยด้วยซ้ำ ด้วยความที่อยากเอาชนะไอ้พวกหนุ่มรุ่นเดียวกันจึงดั้นต้นไปขอสีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ

ไปอยู่หลายครั้งจนหลวงพ่อท่านจำหน้าได้ ท่านเลยสงสารควักให้มาหัวไม้ขีดหนึ่งสั่งว่าเพียงเอาห่อติดตัว เวลาจะใช้กับผู้หญิงคนใดก็เพียงแต่ทำใจให้นึกเห็นใบหน้าเขาและเข้าไปหาเถอะไม่ช้าก็สำเร็จ ซึ่งก็ได้ผลจริง ๆ เพียงไม่นานหญิงสาวคนสวยเกิดสงสารเห็นใจตกลงปลงใจด้วยทำเอาหนุ่มบ้านอื่นงงเป็นไก่ตาแตกกันไปเลย

ท่านผู้เฒ่ายังเล่าต่อว่า หลังจากที่ได้สาวสวยมาอยู่กินด้วยกันแล้ว ก็ได้ถามว่าทำไมจึงเกิดมารักได้ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกไม่ได้สนใจเลย สาวสวยจึงบอกว่าเป็นเพราะอะไรไม่รู้ วันไหนถ้าไม่เห็นหน้าใจคอมันหงุดหงิด ร้อนรุ่ม พอได้เห็นหน้าแล้วมันสบายใจ

 2

งานประกวดนางสาวระยอง

ในปี พ.ศ.2503 ที่จังหวัดระยองได้มีการจัดประกวดนางสาวระยองขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อคัดคนส่งไปประกวดนางสาวไทยที่กรุงเทพฯ วังสราญรมย์ ที่อำเภอบ้านค่ายก็ได้คัดสรรหาสาวสวยส่งเข้าชิงตำแหน่งนางสาวระยองเช่นกัน เมื่อได้ก็พาขัดสีฉวีวรรณกันตามระเบียบ

แต่เมื่อจะถึงวันที่ขึ้นเวทีประกวด เกิดสิวเห่อขึ้นเต็มหน้า พากันตกใจไม่รู้จะทำอย่างไร จะหาตัวแทนใหม่ก็ไม่ทันแล้ว ก่อนถึงวันประกวดคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายทนเสียงอ้อนวอนของพ่อแม่เด็กไม่ได้ จึงยอมให้พ่อแม่เด็กสาวคนนั้นพาไปหาหลวงพ่อทาบ

หลวงพ่อทาบท่านทำน้ำมนต์ให้อาบ แล้วให้สีผึ้งเขียวมาหนึ่งหัวไม้ขีดไฟ และยังปลุกเสกแป้งผัดหน้าให้อีกหนึ่งห่อ และกำชับให้เอาสีผึ้งติดตัวขึ้นไปบนเวทีประกวด

และเวลาประกวดก็ให้ใช้แป้งที่ท่านปลุกเสกผัดหน้าก่อนขึ้นไปเดินบนเวทีทุกครั้ง ผลการตัดสินสาวงามระยองปี พ.ศ. ๒๕๐๓ นั้น ปรากฏว่าสาวน้อย อ. บ้านค่าย ได้ตำแหน่งนางสาวระยอง ทั้งๆ ที่ใบหน้าสิวขึ้นเยอะ

สีผึ้ง เขียวหลวงพ่อทาบใช้อย่างไร?

เคล็ดลับในการใช้สีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบจะเป็นการใช้แบบเฉพาะเจาะจงกลุ่มเป้าหมายของคนที่เราจะเข้าหา หรือเข้าไปติดต่อเรื่องใด ๆ ก็ตาม ให้เลือกใช้ตามนี้

  • ถ้าหากจะเข้าหาผู้ใหญ่ หรือผู้ที่มียศ ติดต่อราชการ ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือแตะสีผึ้งทาริมฝีปาก
  • ถ้าหากจะเข้าหาคนที่รุ่นราวคราวเดียวกัน หรือคนที่อ่อนวก่า ให้ใช้นิ้วชี้แตะสีผึ้งทาริมฝีปาก
  • ถ้าหากจะเข้าหาผู้ที่มีอายุมากกว่า หรือสาวแก่แม่หม้าย ให้ใช้นิ้วกลางแตะสีผึ้งทาริมฝีปาก
  • ถ้าหากจะเข้าหาหนุ่ม ๆ สาว ๆ ให้ใช้นิ้วนางแตะสีผึ้งทาริมฝีปาก
  • ถ้าหากจะเข้าหาสาวที่มีอายุอ่อนกว่า หรือคนที่มีอายุน้อยกว่า ให้ใช้นิ้วก้อยแตะสีผึ้งทาริมฝีปาก

กรณีที่ต้องการใช้สีผึ้ง

เมื่อรู้ถึงวิธีการใช้กับกลุ่มต่าง ๆ แล้ว ก่อนการเริ่มใช้สีผึ้งเขียวให้พึงปฏิบัติตามครูบาอาจารย์ ดังนี้

  1. ตั้ง นะโม 3 จบ
  2. ระลึกถึง คุณพระพุทธเจ้า คุรพระพุทธ คุณพระสงฆ์ ระลึกถึงหลวงพ่อทาบ และครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อทาบ ระลึกถึงเทวดาผู้รักษาตนเอง และเทวดาผู้ที่รักษาบุคคลที่เราจะไปพบ ระลึกถึงคุณว่านยา เพื่อเป็นการเปิดทาง
  3. ใช้นิ้วแตะสีผึ้งตามบุคคลที่เราไปหา
  4. ใช้นิ้วมือที่แตะสีผึ้งทาที่ริมฝีปาก พร้อมกับภาวนาว่า “จิตติ มิตติ อะระหัง ปิยัง มะมะ”

กรณีที่ต้องการแค่พกสีผึ้ง

บางท่านอาจจะต้องการแค่พกสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบติดตัวเพื่อให้เกิดเมตตามหานิยมแก้บุคคลทั่วไป ให้ทำตามดังนี้

  1. ตั้ง นะโม 3 จบ
  2. ระลึกถึง คุณพระพุทธเจ้า คุรพระพุทธ คุณพระสงฆ์ ระลึกถึงหลวงพ่อทาบ และครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อทาบ ระลึกถึงเทวดาผู้รักษาตนเอง และเทวดาผู้ที่รักษาบุคคลที่เราจะไปพบ ระลึกถึงคุณว่านยา เพื่อเป็นการเปิดทาง แล้วกล่าวคาถาว่า “อุกาสะ สัมปะติ จิตติ มิตติ อะระหัง”
  3. แล้วจึงนำสีผึ้งพกพาติดตัวไปด้วย

สมบัติโลก พระเครื่อง มรดกชิ้นสุดท้าย

นอกจากหลวงพ่อทาบจะทำสีผึ้งเขียวแล้ว ท่านยังได้สร้างพระเครื่องด้วยซึ่งเป็นพระผงพิมพ์สมเด็จ พิมพ์แม่นางกวัก พิมพ์กลีบบัว และพิมพ์พระปิดตามี 5 พิมพ์ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยอาจารย์ปถม อาจสาคร เป็นผู้แนะนำ การตำ คลุกเค้าผงและกดพิมพ์พระ

ลักษณะ เป็นพระเนื้อผงผสมสีผึ้งเขียว มีสีดำเข้ม มีทั้งแบบปิดทองคำเปลวด้านหน้าและไม่ปิด สร้างประมาณ ๘๔,๐๐๐ องค์ เท่ากับพระธรรมขันธ์ ทิ้งไว้เป็นสมบัติโลกให้แก่คนดีมีวาสนา ตามที่ท่านเคยลั่นวาจาไว้ “สมบัติโลก พระเครื่อง มรดกชิ้นสุดท้าย”

พุทธคุณของพระผง

  • สุดยอดด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม
  • อยู่ยงคงกระพัน
  • แคล้วคลาด
  • โชคลาภค้าขาย

มวลสารส่วนผสมพระผง

  1. ผงวิเศษเก่าของหลวงพ่อทาบ
  2. สีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบ
  3. ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ของอาจารย์ปถม อาจสาคร
  4. ผงถ่านคัมภีร์ใบลานโบราณเก่าของหลวงพ่อทาบ
  5. ผงวิเศษของหลวงพ่อบุญมี วัดโพธิสัมพันธ์ อ.ศรีราชา ชลบุรี
  6. ผงดินมงคลของหลวงพ่อทาบ
  7. ผงโยคีฮาเล็บ วัดสารนาถ อ.แกลง

การปลุกเสก

  • ครั้งที่ 1 หลวงพ่อทาบปลุกเสกเดี่ยว 1 พรรษาเต็ม
  • ครั้งที่ 2 รายนามพระเกจิอาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก ณ วัดกระบกขึ้นผึ้ง มีหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ รับนิมนต์เป็นประธานพิธี, หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก, หลวงพ่อเย็น วัดบ้านแลง และหลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก
  • วิธีการปลุกเสกนั้นทำโดยการเข้าสมาธินั่งปรกปลุกเสกตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึงเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันใหม่ โดยเฉพาะเป็นครั้งแรกที่หลวงปู่ทิมอิสริโก รับนิมนต์มาปลุกเสกนอกวัดละหารไร่ และท่านได้นั่งปรกปลุกเสกรวดเดียว 8 ชั่วโมง โดยไม่หยุดพักฉันน้ำชา

เรื่องเล่าปาฏิหาริย์พระผงสีผึ้ง

ในด้านแคล้วคลาด เรื่องของคนขี่สามล้อ ได้รับแจกพระผงด้วยเช่นกัน กำลังปั่นซาเล้งอยู่กลางถนน เสาไฟฟ้าเกิดหักลงเกือบจะทับรถ ซึ่งแล่นมาพอดี คนขับไม่เป็นอะไรในตัวมีพระผงซึ่งได้รับแจกมาจากหลวงพ่อทาบเพียงองค์เดียว ทำให้เป็นเรื่องฮือฮามากในยุคนั้น

ในด้านเมตตามหานิยม ของพระผงนั้น มีคนง่อยอยู่ใกล้วัดกระบกขึ้นผึ้งนับถือหลวงพ่อทาบมาก และได้รับพระผงพิมพ์พระปิดตาไว้องค์หนึ่ง หลวงพ่อทาบสั่งว่าถ้าใช้ด้วยความศรัทธาและมั่นใจก็จะสัมฤทธิ์ผลทุกอย่าง

ชายง่อยผู้นี้เป็นคนง่อยประเภทโด่ไม่รู้ล้ม มีภรรยาถึง ๖ คน ทุกคนอยู่กับชายง่อยด้วยความสามัคคี ไม่มีเรื่องทะเลาะกัน จนเป็นที่อิจฉาของเพื่อนบ้าน กิตติศัพท์เรื่องนี้เคยมีคนมาขอซื้อพระองค์นี้ แต่เจ้าตัวไม่ยอมขาย

ในด้านอยู่ยงคงกระพัน ศิษย์ของหลวงพ่อทาบคนหนึ่ง ใช้พระพิมพ์สมเด็จที่หลวงพ่อทาบปลุกเสก ติดตัวอยู่เป็นประจำ เคยถูกลอบยิงด้วยปืนลูกซองเต็มแผ่นหลัง แต่ไม่ระคายผิวหนัง มีเพียงรอยไหม้เป็นจุดเล็ก ๆ

อีกเรื่องเมื่อครั้งหนึ่งที่วัดกระบกขึ้นผึ้ง มีงานวัดในสมัยนั้นงานวัดจะเป็นที่รวมหนุ่ม ๆ ทุกหมู่บ้านมาในงานเดียวกันหนุ่มที่มาต่างหนุ่มชาวไร่อ้อย ชาวไร่มัน และหนุ่มโรงน้ำตาล ได้รับแจกพระเครื่องผงดำไปคนละองค์สององค์ เหมือนเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อผู้คนทั่วสารทิศมารวมตัวกันก็ย่อมมีเรื่องทะเลาะวิวาทตีรันฟันแทงกันทุกงาน แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีใครเลือดตกอย่างออกเลย

สรุป

คงจะพอทราบเหตุและผลกันแล้วว่าทำไมสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบถึงได้รับการยกย่องให้เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย แถมยังมีราคาแพงเอามาก ๆ เสียด้วย เพราะหลวงพ่อทาบไม่ให้สีผึ้เขียวนี้แก่ใครง่าย ๆ ถึงคราวจะให้ก็ให้แค่เพียงปริมาณน้อยเท่าหัวไม้ขีด ยิ่งทำให้ผู้คนที่ต้องการต่างเสาะหามากยิ่งขึ้น

แต่ถ้าใครอยากได้จริง ๆ ทั้งสีผึ้งเขียว หรือพระผง นั้นแม่โลมาแนะนำคงจะต้องไปถึงบ้านค่าย จังหวัดระยอง ไปเสาะเอาแถว ๆ นั้นน่าจะได้ของแท้แน่นอน ไม่โดนหลอกได้ของปลอม นอกจากนี้สามารถติดตามบทความดี ๆ ที่ Ruay365 ได้ทุกวันนะคะ

Facebook
Twitter
Email