ถ้าพูดถึงจังหวัดเชียงราย สายมูหลายคนๆ คงนึกถึงวัดร่องขุ่น ของ อ.เฉลิมชัย เป็นวัดแรกๆ ซึ่งมันไม่ผิดเลยที่จะคิดแบบนั้น เพราะวัดร้องขุ่น มีชื่อเสียงระเบียงไกลไปทั่วโลก จนกลายเป็นแลนด์มาร์คคัญของไทย และจ.เชียงรายไปแล้ว แต่เชื่อหรือไม่ว่าที่เชียงราย ยังมีวัดที่มีความสวยงาม และศิลปะสุดงามวิจิตร ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ซึ่งวัดแห่งนั้นก็คือ วัดแสงแก้วโพธิญาณ นั่นเอง แล้วความสวยงามของ วัดแสงแก้วโพธิญาณ จะเป็นแบบไหน จะอลังการงานสร้างเหมือน วัดร่องขุ่นหรือไม่ ? มาทางนี้ แล้วไปทำความรู้จักพร้อมๆ กับเรา Ruay365 ได้เลย
สารบัญ
Toggleประวัติ วัดแสงแก้วโพธิญาณ
![Wat Sangkaew Phothiyan](https://www.ruay365.com/wp-content/uploads/2020/09/city-587752fad3452.jpg)
“วัดพระธาตุแสงแก้วโพธิญาณ” หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “วัดแสงแก้วโพธิญาณ” ตั้งอยู่บนดอยม่อนแสงแก้ว ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เป็นวัดที่ถูกออกแบบและสร้างโดย พระครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต พระเกจิดังของล้านนา และเจ้าอาวาสของวัด โดยท่านได้นำพุทธศิลป์และศิลปะมาผนวกเข้าด้วยกัน จนกลายให้เป็นสถาปัตยกรรมภายในวัดมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบไม่มีที่ไหนเหมือน
วัดแสงแก้วโพธิญาณ ถือกำเนิดจากนิมิตของ พระครูบาอริยชาติ โดยในนิมิตท่าน เห็นฝนตกหนัก เดินหลงทาง ก็ได้เห็นป่าทั้งป่าบนภูเขา มีดอกบัวบานเต็มไปหมด มีแสงสว่างไสวสวยงาม แสงเรืองรองเหมือนแสงแก้วกลายเป็นดอกบัว
![pra kru ba ariyachat](https://www.ruay365.com/wp-content/uploads/2020/09/p0sb03bcoY4M8aKEi8P-o.jpg)
หลังจากที่ท่าน นำเรื่องนิมิตไปบอกกล่าว กับพ่อหลวงยา ศรีทา และเริ่มเดินทางค้นหาสถานที่ตามนิมิต จนได้พบยอดเนินเขาบนบ้านป่าตึงงาม จึงได้จุดธูปเทียนพร้อมทั้งกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล และตั้งจิตอธิษฐานว่า “หากสถานที่แห่งนี้ แม้เป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่อันเป็นมังคละคู่บารมีท่านในการที่จะได้จรรโลงพระพุทธศาสนาต่อไป แล้ว ขอให้ได้ที่ดินผืนนี้มา”
เจ้าของที่ดินทราบข่าว จึงได้ถวายที่ดินประมาณ 19 ไร่เศษให้กับพระครูบาอริยชาติ อริยจิตโต เพื่อสร้างวัด เป็นศูนย์รวมจิตใจและทำนุบำรุงพุทธศาสนาสืบไป การก่อสร้างจึงเริ่มมีขึ้นตั้งแต่ วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 และกลายมาเป็นพุทธสถานที่เป็นแหล่งยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนจนถึงปัจจุบัน
สถาปัตยกรรมสุดวิจิตร ใน วัดแสงแก้วโพธิญาณ
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ครูบาอริยชาติ วัดแสงแก้วโพธิญาณ เป็นผู้ออกแบบและสร้างวัดแห่งนี้ขึ้น จึงทำให้วัดมีความสวยงาม ที่สะท้อนความเชื่อ และวัฒนธรรมของชาวพุทธในดินแดนล้านนา ที่แฝงความหมายในเชิงธรรมะ และแฝงหลักพุทธธรรมอันลึกซึ้งอยู่ในทุกองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้น ซึ่งสถาปัตยกรรมที่ว่านี้มีด้วยกัน 10 จุดด้วยกันที่ได้รับความสนใจ และถูกแบ่งเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ชั้นล่าง (โลกมนุษย์) ชั้นกลาง (ชั้นสวรรค์) และชั้นบน (นิพพาน)
จุดแรก พระพุทธเจ้า 4 พระองค์ (ชั้นล่าง หรือ โลกมนุษย์)
![paradise and hell at Wat Sangkaew Phothiyan](https://www.ruay365.com/wp-content/uploads/2020/09/city-587752fad4206.jpg)
เป็นหุ่นปั้นรูปเหมือนแทนพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ คือ พระกกุสันธพุทธเจ้า, พระโกนาคมนพุทธเจ้า, พระกัสสปพุทธเจ้า และพระโคตมพุทธเจ้า โดยมีสิงห์ขนาด 9 เมตรหนึ่งคู่ ตั้งอยู่บริเวณด้านขวาและด้านซ้ายของบันได ศิลปะลักษณะนี้ได้รับอิทธิพลมาจากขอมโบราณเรียกว่า “สิงห์ทวารบาล” ทำหน้าที่อารักขาสถานที่ และมีการออกแบบบันไดทางขึ้นเป็น “พญานาค” หรือที่เรียกว่า บันไดนาค
เมื่อขึ้นบันไดผ่านซุ้มประตูเข้ามาก็จะเป็นชั้นที่สอง เป็นพุทธาวาสเป็นเขตของพระพุทธเจ้า เป็นที่ทำสังฆพิธีต่างๆ มีอุโบสถ วิหาร หอไตร มีปราสาท 16 หลัง แทนพรหม 16 ชั้น มีศาลา 16 ห้อง แทน 16 ชั้นฟ้า
ซึ่งที่ชั้นสองนี้ จะเห็นยักษ์ และเทวดา ซึ่งเป็นปริศนาธรรมของพระครูบาอริยชาติ หากสังเกตดีๆ ที่ยักษ์สองตนด้านขวานั้นในมือก็มีทั้งบุหรี่และเหล้า ทำสัญลักษณ์มือบอกรัก ส่วนที่เท้าก็มีทั้งรองเท้าแตะและรองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ส เรียกได้ว่าเป็นปริศนาธรรมที่ผสมผสานความเชื่อดั้งเดิมเข้ากับวัตถุสมัยนิยมในยุคนี้
พระอุปคุตจกบาตร
![pra ooppakutajokbat](https://www.ruay365.com/wp-content/uploads/2020/09/5a13e0db5b5aa01b638b4571-1-tp-full.jpg)
หากสังเกตที่บันไดด้านซ้าย ท่านจะพบเข้ากับรูปปั้นพระอุปคุต ซึ่งถือเป็นพระอรหันต์ที่มีฤทธิ์ กำลังอยู่ในท่า “จกบาตร” มีความโด่งดังในเรื่องการให้ชื่อเสียงและโชคลาภ เหมาะสำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธาที่ต้องการมา ขอพรเรื่องความร่ำรวยและโชคลาภ เพราะเชื่อกันว่า หากผู้ใดมีบุญบารมีได้มาบูชามักทำให้ร่ำรวยเงินทอง มีโชคลาภ เจริญรุ่งเรือง มีสติปัญญาเฉียบแหลม มีสมาธิจิตดี ปราศจากภัยทั้งปวง
พระอุปคุตจกบาตร จะแตกต่างจากพระสิวลีจกบาตร ตรงที่พระอุปคุตจะเห็นแหงนหน้าเยื้องไปทางขวา ส่วนพระสิวลีจะหันหน้าตรง หรือบางครั้งหากเป็นรูปปั้นพระสิวลี จะมีกลดที่หุบอยู่ปักอยู่ข้างๆ ตัวด้วยนั่นเอง ซึ่งหากมีโอกาสได้ไปสักการะ พระอุปคุตจกบาตร ควรสวดพระถาคาบูชาพระอุปคุต เพื่อให้เกิดโชคลาภและคุ้มกันภัย ดังนี้
ตั้งนะโม 3 จบ จากนั้นสวดคาถาขอลาภพระอุปคุต
มหาอุปะคุตโต จะ มะหาลาโภ พุทโธลาภัง สัพเพชะนา พะหูชะนา ราชาปุริโส อิถีโยมานัง นะโม โจรา เมตตาจิตตัง เอหิจิตติจิตตัง ปิยังมะมะ สะเทวะกัง สะพรหมมะกัง มะนุสสานัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม ฯ
เอหิจิตติจิตตัง พันธะนัง อุปะคุตโต จะ มหาเถโร พุทธะสาวะกะอานุภาเวนะ มาระวิชะยะ นิระภะยะ เตชะปุณณะตา จะ เทวะตานัมปิ มะนุสสานัมปิ เอหิจิตตัง ปิยัง มะมะ อิมัง กายะพันธะนัง อะทิถามิ ปะอัยยิสสุตัง อุปัจสะอิ ฯ
วิหารหลวงลายคำ
“วิหารหลวงลายคำ” เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญของบริเวณชั้นสอง เพราะเป็นสถานที่ที่งดงามเป็นอย่างมาก หากเดินขึ้นมาด้านบนวิหารแล้วมองกลับไปด้านหลัง ก็จะเห็นวิวมุมกว้างของดอยม่อนแสงแก้ว ส่วนภายในวิหารประดิษฐาน “พระแสงแก้วโพธิญาณ” พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสน ทรงเครื่องล้านนา
![luang lai kum sanctuary](https://www.ruay365.com/wp-content/uploads/2020/09/city-587752fad5195.jpg)
พระแสงแก้วโพธิญาณ
“พระแสงแก้วโพธิญาณ” พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสน ทรงเครื่องล้านนา เป็นพระประธานประดิษฐานในวิหารวัดแสงแก้วโพธิญาณ
![pra sang kaew pothiyan](https://www.ruay365.com/wp-content/uploads/2020/09/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93.jpg)
เทพทันใจ วัดแสงแก้วโพธิญาณ
เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี เป็นรูปปั้นจำลองมาจากฝั่งพม่า ชาวพม่ามีความเชื่อกันว่า ไม่ว่าจะสร้างเจดีย์ใดหรือที่ไหนก็ตาม จะต้องมีเทพคอยคุ้มครองดูแลเจดีย์ นั่นก็คือ “เทพทันใจ” ผู้ที่คอยคุ้มครอง เชื่อกันว่าจะทำให้สมปรารถนารวดเร็วทันใจ สมกับคำว่า เทพทันใจ นั่นเอง
![Botahtaung](https://www.ruay365.com/wp-content/uploads/2020/09/oeyvna10t4OmGkOf3LWf-o.jpg)
ซึ่งการไหว้เทพทันใจนั้น ที่วัดแสงแก้วโพธิญาณ ก็คล้ายกับที่พม่า ไม่จำเป็นต้องใช้ธูปในการไหว้ ใช้เพียงเครื่องบูชาเท่านั้น โดยเครื่องบูชานั้นจะประกอบด้วย มะพร้าว, กล้วย, ใบชนะ, ผ้าคล้องคอ, ร่มฉัตรกระดาษ, ดอกไม้ และธนบัตรจำนวน 2 ใบให้นำสิ่งของที่ถวายใส่พาน แล้วนำไปวางที่โต๊ะ
แต่หากไม่มีสิ่งของเหล่านั้น ก็ให้ให้ม้วนธนบัตรเป็นรูปกรวย สอดไปในมือของเทพทันใจ จากนั้นนำหน้าผากของเราไปแตะชิดที่นิ้วชี้ของเทพทันใจที่ชี้มา พร้อมอธิษฐาน ให้อธิษฐานได้เพียงข้อเดียวเท่านั้นถึงจะสัมฤทธิ์ผล เสร็จแล้วจึงดึงนำธนบัตรออกมา 1 ใบ เพื่อเก็บไว้เป็นสิริมงคล
จากนั้นเดินจับรูปปั้นเทพทันใจรอบๆ รวมถึงจับไม้เท้าท่านด้วย แล้วคนทำพิธีจะให้ใบชนะแก่เรา และให้เรานำผ้าไปคล้องคอเทพทันใจ เป็นอันเสร็จพิธี
แม่นางกวักอ้วน
หากพูดถึงเครื่องราง ที่จะทำให้ค้าขายดีแล้วล่ะก็ จะต้องเป็น “นางกวัก” แน่นอน ตามตำนานแล้วนางกวัก จะมีรูปร่างที่ผอมบางสวยงาม แต่ที่วัดแสงแก้วโพธิญาณ ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะพระครูอริยชาติ อริยจิตโต ท่านได้สร้างนางกวัก ที่มีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ขึ้นมา โดยนางกวักที่วัดแห่งนี้ มีชื่อว่า “แม่นางกวักอ้วน” ซึ่งสาเหตุที่ทำให้สร้างนางกวักอ้วนขึ้นมา ก็เพราะความอ้วนหมายถึงความอุดมสมบรูณ์ ความมั่งมี
![Nang Kwak aun](https://www.ruay365.com/wp-content/uploads/2020/09/oeyvum10u88zkANlyTB7-o.jpg)
และด้วยชื่อ แม่นางกวักอ้วน ทรัพย์แสนล้าน ทำนางกวักอ้วนที่นี่กลายเป็นวัตถุมงคลวัดแสงแก้วโพธิญาณ มีชื่อเสียงระบือไปไกลถึงต่างประเทศ เพราะคนค้าขายเขาเชื่อกันว่า นางกวักอ้วนช่วยเรียกทรัพย์ เรียกเงินได้
แม่กระซิบ อีกหนึ่งจุดขอโชค วัดแสงแก้วโพธิญาณ
ตามตำนานความเชื่อของคนพม่านั้น “อะมาดอว์เมียะ” หรือ “เทพกระซิบ” เป็นธิดาของพญานาคที่มีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า จนยอมฝืนธรรมชาติของนาคที่ปกติแล้วจะกินสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่จับได้เป็นอาหาร แต่นางผู้ธิดาพญานาคไม่ยอมทำร้ายชีวิตอื่นๆ ชั่วชีวิตของนางจึงกินแต่อาหารมังสวิรัติเท่านั้น ทำให้เมื่อสิ้นชีวิตนางจึงได้กลายเป็น “นัต” ที่ผู้คนเคารพศรัทธานั่นเอง
![mae ka sip](https://www.ruay365.com/wp-content/uploads/2020/09/oeyvpybsfUz1342VsVX-o.jpg)
สำหรับวัดแสงแก้วโพธิญาณ จังหวัดเชียงราย “เทพกระซิบ” ได้รับการอธิษฐานจิตอัญเชิญโดยครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต เพื่อให้บารมีของ “เทพกระซิบ” ได้มาสถิตอยู่ในดินแดนไทย โดยหวังให้ชาวไทยซึ่งไม่สามารถเดินทางไปกราบสักการะเทพกระซิบที่พม่า ได้มีโอกาสสักการะขอพรท่านโดยตรงโดยไม่ต้องไปไกลถึงพม่า เชื่อว่าถ้ากระซิบขออะไรแล้วจะสมหวัง
เทพนพเคราะห์ 9 องค์
“เทพนพเคราะห์” คือ เทพทั้ง 9 องค์ ผู้ครองเรือนชะตาของมนุษย์ มีต้นกำเนิดมาจากโหราศาสตร์ฮินดูที่นับถือพระสุริยเทพ (พระอาทิตย์) ซึ่งมีเทพบริวารอีก 8 องค์ รวมเป็น 9 องค์ ซึ่งให้โทษหรือสร้างอุปสรรคให้กับมนุษย์มากกว่าจะให้คุณ ต่อมาจึงต้องมีผู้ควบคุมเทพนพเคราะห์อีกชั้นหนึ่ง นั่นคือ “พระคเณศ” เทพผู้เป็นใหญ่เหนืออุปสรรคทั้งมวล
![The Nine Planets](https://www.ruay365.com/wp-content/uploads/2020/09/82d65b85f2344113ad3e6c5d59f47d87.jpg)
เทพนพเคราะห์ทั้ง 9 องค์ ประกอบด้วย พระอาทิตย์, พระจันทร์, พระอังคาร, พระพุธ, พระพฤหัสบดี, พระศุกร์, พระเสาร์, พระราหู, พระเกตุ และพระตรีมูรติ ก่อนเข้าวงเวียนจะเจอเข้ากับยักษ์หลับและยักษ์ตื่น แทนกลางคืนและกลางวันในความหมายทางโลก แต่ถ้าเป็นความหมายทางธรรม จะหมายถึง พุธโธ คนเราทำอะไรให้มีสติ
ครูบาชัยยะ วงศาพัฒนา
เมื่อพ้นจากเขาพระสุเมรุ ทางด้านขวาคือครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ด้วยเหตุว่าชาวล้านนาเชื่อว่าครูบาศรีวิชัยคือพระโพธิสัตว์ที่ลงมาจุติในล้านนา ที่ครูบาอริยชาติสร้างรูปครูบาศรีวิชัยไว้ชั้นบนสุดเพื่อเป็นความหมายว่า “เหนือพระโพธิญาณ มีพระโพธิสัตว์” พระวิหารที่สร้างไว้ชั้นกลางหรือชั้นสวรรค์-พรหม นั้นจะมีสะพานเชื่อมขึ้นมาถึงชั้นนี้ เป็นนัยว่าการข้ามเข้าสู่ชั้นนิพพาน
รูปหล่อโลหะครูบาศรีวิชัย องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
![Sangkaew Phothiyan temple](https://www.ruay365.com/wp-content/uploads/2020/09/jq.jpg)
จุดสำคัญสำหรับใครที่มาเยี่ยมชมวัดแสงแก้วโพธิญาณ นั่นก็คือ “รูปหล่อโลหะครูบาศรีวิชัย” หน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 12 เมตร เป็นขนาดของรูปหล่อครูบาศรีวิชัย เนื้อโลหะองค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดยจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการน้อมรำลึกนึกถึงคุณงามความดีของครูบาศรีวิชัยที่ท่านอุทิศให้พระพุทธศาสนา
การสร้างรูปหล่อเหมือนขององค์ท่าน เพื่อเป็นอาจาริยบูชาให้ศรัทธาประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งด้านภาคเหนือก็ดี ภาคอื่นๆ ก็ดี และแม้กระทั่งศรัทธาจากต่างประเทศ ซึ่งนับวันจะมีเพิ่มมากขึ้น ได้มากราบไหว้เคารพบูชาเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
ขอบคุณรูปภาพจาก: Max Travel OK, Govivigo, Thai North Tour
สรุปส่งท้าย ก่อนซิ่งไปขอเลขเด็ด
ถึงกับว้าว…! กันไปเลยทีเดียวกับจุดไฮไลท์น่าขอเลขเด็ด แต่ละที่ของ วัดแสงแก้วโพธิญาณ ขอบอกไว้เลยนะคะว่าที่วัดแห่งนี้ ไม่ได้มีดีแค่เป็นวัดของพระเกจิชื่อดังอย่าง พระครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต เท่านั้น แต่ยังมีสถาปัตยกรรมที่หลากหลายภายในวัด
มีการดีไซน์วัดโดยใช้หลักอ้างอิงตามหลักพระพุทธศาสนา แต่ก็ไม่ลืมที่จะปรับให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน สำหรับใครที่แวะมาเชียงรายหรือมาเที่ยวจังหวัดใกล้เคียงก็ต้องอย่าพลาดที่จะเข้ามาไหว้สักการะที่ วัดแสงแก้วโพธิญาณ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
ก่อนจากกันไป สำหรับใครที่อยากอ่านบทความดีๆ แบบนี้ ทั้งเรื่องความเชื่อ แรงศรัทธา ทำนายฝัน ดูดวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สูตรหวย สถิติหวย เลขเด็ด เราได้ทำการรวบรวม เรื่องดี เรื่องดัง เรื่องน่าสนใจ มาให้ทุกท่านไว้แล้วที่นี่ที่เดียว ไม่ต้องเสียเวลาหาเยอะแยะมากมาย มาพบกับพวกเราได้ในทุกวันที่ Ruay365